นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง (ECL) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 500-600 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีสินเชื่อคงค้าง 1.2 พันล้านบาท โดยในปีนี้จะเน้นการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง ไม่ว่ารถใหม่หรือรถมือสอง จึงทำให้มั่นใจว่าการขยายฐานการเติบโตจะสูงถึง 10% ได้
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดว่าจะผลักดันการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ว่าในปีนี้อาจเห็นธุรกิจลิสซิ่งหลายบริษัทต้องปิดตัวจากปัญหาเศรษฐกิจหดตัว แต่จากการที่บริษัทเน้นลูกค้าระดับกลาง จึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบ โดยคาดว่าการปล่อยสินเชื่อ outstanding ในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.2 พันล้านบาท ขณะคาดว่าจะรักษาระดับหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL)เท่าเดิมที่ 3%
แต่ในส่วนของกำไรสุทธิจะสามารถรักษาไว้ที่ 30 ล้านบาทจากปีก่อนหรือไม่ คงจะต้องประเมินสถานการณ์ก่อน เพราะขณะนี้ยังถือว่าเร็วไป อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ไม่ได้ลดลง แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงก็ตาม
แผนงานในปีนี้บริษัทคงจะเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างรัดกุมต่อลูกค้าทั้งรถใหม่และรถมือสอง โดยยังเน้นการปล่อยในพื้นที่เดิม แต่ก็มีแผนขยายตลาดเพิ่มเติมด้วย โดยสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อจะยังมาจากสินเชื่อรายย่อยที่ 70% และรถเช่าอีก 10% ส่วนที่เหลือเป็นรถเชิงพาณิชย์ เรือ และมอเตอร์ไซด์
นายดนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการซื้อหนี้มาบริหาร โดยที่ผ่านมามีผู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาบ้างแล้ว แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับ ยังไม่ถือว่าจำเป็นมาก เพราะพอร์ตสินเชื่อที่บริษัทมีอยู่ในขณะนี้ก็เพียงพอแล้ว แม้จะมีความสามารถรับเข้าพอร์ตได้อีก 1 พันล้านบาทก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีนี้คงจะได้เห็นการเปลี่ยนถ่ายของธุรกิจลิสซิ่ง แต่ในส่วนของบริษัทคงไม่มีการตัดขายหนี้
ปัจจุบัน บริษัทมีกระแสเงินสด 400 ล้านบาทและวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ถือว่าเพียงพอในการทำธุรกิจ และมี D/E ที่ 1.4 เท่าถือว่าต่ำหากเที่ยบในกลุ่มธุรกิจลิสซิ่งที่ส่วนมี D/E ในระดับ 2 เท่า
ส่วนเรื่องปัญหาสภาพคล่อง นายดนุชา ยอมรับว่า สภาพคล่องของหุ้นมีน้อยแต่ผู้ถือหุ้นไม่กังวลเพราะบริษัทมีการจ่ายปันผลให้อย่างสม่ำเสมอ