ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ รวมถึง หุ้นเมิร์ค แอนด์ โค หลังจากทำเนียบขาวเสนอให้มีการลดงบประมาณการใช้จ่ายในโครงการประกันสุขภาพ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขว่างงานและยอดขายบ้านใหม่ที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 88.81 จุด หรือ 1.22% แตะ 7,182.08 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 12.07 จุด หรือ 1.58% แตะ 752.83 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 33.96 จุด หรือ 2.38% แตะ 1,391.47 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.47 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 10 ต่อ 9 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.32 พันล้านหุ้น
บิล เคแนปป์ นักวิเคราะห์จากเมนสเตย์ อินเวสเมนท์ กล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงการจัดสรรงบประมาณสำหรับปีพ.ศ.2553 มูลค่า 3.55 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการลดจะลดงบประมาณการใช้จ่ายในโครงการ Medicare และ Medicaid ซึ่งเป็นโครงการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุและคนยากจ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทประกันเอกชน โรงพยาบาล บริษัทผู้ผลิตยา และหน่วยงานด้านสุขภาพ
นอกจากนี้ แผนการดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการปรับลดเงินประกันการรักษาพยาบาลที่จ่ายให้กับบริษัทประกันเอกชน ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อยาราคาถูกลงและสกัดกั้นบริษัทยาจากการทำข้อตกลง และถือเป็นการปิดกั้นการแข่งขันของบรรดาผู้ผลิตยาสามัญ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นเมิร์ค แอนด์ โค ดิ่งลง 6.7% และฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลงด้วย
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเช้า หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศแผนทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ภายในประเทศ รวมถึง ซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และโกลด์แมน แซคส์ เพื่อประเมินว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่
แต่ในช่วงบ่ายหุ้นบางตัวในกลุ่มธนาคารดิ่งลงสู่แดนลบ หลังจากคณะทำงานของโอบามายืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มงบประมาณเข้าสู่แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจฉบับเดิม 7 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดีดขึ้น 18.8% และหุ้นยูบีเอสปิดบวก 10%
หุ้นหลายตัวในกลุ่มประกันสุขภาพดิ่งลง โดยหุ้นเวลล์พอยท์ อิงค์ ร่วงลง 9.7% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ร่วงลง 12.9% และหุ้นเอ็ทนา อิงค์ ดิ่งลง 11.3%
ส่วนหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ร่วงลง 6.7% หลังจากบริษัทรายงานตัวเลขขาดทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 นอกจากนี้มีรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงของจีเอ็มได้เดินทางเข้าพบคณะทำงานของโอบามาเพื่อเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างและขอเงินกู้เพิ่ม