สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) (BBB/มีเสถียรภาพ/A-2) ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารประกาศเข้าถือหุ้นเพิ่มในบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) ผ่านการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท เมืองไทย โฟร์ทิส โฮลดิ้ง จำกัด (MTFH) เป็น 51% จากปัจจุบันที่ 10%
S&P เชื่อว่า การเข้าถือหุ้นเพิ่มเติมดังกล่าวจะส่งผลต่ออัตราส่วนทางการเงินของ KBANK เพียงเล็กน้อย และจะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของธนาคาร
นอกจากนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต (MTL) (BBB+/มีเสถียรภาพ/--) ซึ่ง MTFH ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 75% ก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของในทันที
ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ KBANK มีค่าใช้จ่ายประมาณ 6.5 - 7.5 พันล้านบาท และจะคิดเป็น 6.9% ของเงินทุนทั้งหมดของธนาคาร ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมจะทำให้สินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มขึ้น 6-7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 5% ของสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิม
สำหรับการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคารที่ต้องการมีบริการให้ลูกค้าครบทุกประเภท ซึ่งหากการซื้อหุ้นเพิ่มเติมแล้วเสร็จ ก็จะทำให้ KBANK แซงหน้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB (BBB/มีเสถียรภาพ/A-2) ขึ้นเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของไทย โดยคาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ หลังจากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น