ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดอ่อนตัวลงเช้าวันนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4 ปีที่แล้วหดตัวลงมากถึง 6.2% และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกลง
กระทรวพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 7,454.28 จุด ลดลง 114.14 จุด ดัชนีคอมโพสิตปิดลบ 29.7 จุด หรือ 2.79% แตะที่ระดับ 1,033.33 จุดในช่วง 15 นาทีแรกที่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 12,522.61 จุด ลบ 288.96 จุด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดอ่อนตัวลง 0.8% แตะ 2,066.23 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้น เปิดตลาดร่วง 1.27% แตะ 7,511.66 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 1,566.81 ลบ 28.06 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ตกลงไป 2.1% แตะ 73.62 จุด เมื่อเวลา 10.28 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นแคนนอน ร่วง 3.9% ส่วนหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ตกลง 4% หลังจากที่หุ้นแบงค์สหรัฐร่วง หุ้นอินเด็กซ์ คอร์ป บริษัทสำรวจน้ำมันอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ตกลงไป 4.7% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลง ขณะที่หุ้นโซนี่ บวก 1.4%
ฮิซากาสึ อามาโน่ หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทุนของ T&D Asset Management Co., กล่าวว่า นักลงทุนไม่รู้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงนั้นจะเกิดขึ้นไปอีกนานเท่าไร ตอนนี้ตลาดซบเซา จึงไม่ค่อยมีนักลงทุนกล้าซื้อขายมากนัก