ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 416.52 จุด ลดลง 15.00 จุด(-3.48%) มูลค่าการซื้อขาย 8,058 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 428.95 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 415.32 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 50 หลักทรัพย์ ลดลง 320 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 58 หลักทรัพย์
นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ลงตามต่างประเทศ คาดว่ามีนักลงทุนสถาบันยังขายอยู่ ปัจจัยลบจากต่างประเทศ และบ้านเราเศรษฐกิจโดยทั่วๆ ไปยังชะลอคนก็ยังรอการลงทุน
ทิศทางพรุ่งนี้ถ้าจะรีบาวน์ก็ต้องดูตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่อาจจะมีเทรดดิ้งรีบาวน์ได้ ปัจจัยพรุ่งนี้ดูว่าตลาดอเมริกาจะมีปัญหาอะไรต่ออีกหรือเปล่าหรือความมั่นใจจะกลับมาหรือไม่ในระหว่างเทรด แต่คิดว่าคงยาก ข่าวที่ควรจะจับตาดูต่อไปคือเรื่องของมาตรการรัฐที่เกี่ยวข้องกับในประเทศในเรื่องของการใช้จ่ายสาธารณูปโภคก็จะเป็นผลดี
วันนี้ตลาดจีนเป็นตลาดเดียวที่บวกเป็น story การเติบโตของเศรษฐกิจภายใน เช่น สาธารณูปโภค การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนต่างประเทศ เช่น การซื้อเหมือง ซื้อบ่อน้ำมัน จึงต้องตามดูในช่วง 2-3 วันนี้ว่ารัฐบาลจะมีแพ็กเก็จอะไรใหม่ๆทีเกี่ยวข้องกับการสร้างสาธารณูปโภคเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีตรงนี้ก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง
"ช่วงนี้ต้องดูเทรดดิ้งรีบาวน์ เกี่ยวกับ story ที่เกิดขึ้นจากข้างในเพราะข้างนอกคงไม่ได้มีเรื่องอะไรดีนักสำหรับตอนนี้" นายพงษ์พันธ์ กล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 852.20 ล้านบาท ปิดที่ 195.00 บาท ลดลง 17.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 826.47 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 598.76 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 590.62 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 561.39 ล้านบาท ปิดที่ 41.50 บาท ลดลง 3.00 บาท