ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ธนาคาร HSBC เตรียมระดมทุนเพิ่น และจากข่าวการขาดทุนนับหมื่นล้านดอลลาร์ของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งข่าวดังกล่าวกดดันให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 204.26 จุด แตะ 3,625.83 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,625.83-3,830.09 จุด
ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Hargreaves Lansdown Stockbrokers ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า หุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 19% หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ธนาคาร HSBC อาจต้องระดมทุนเป็นวงเงินสูงถึง 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตัวเลขเงินกู้หนี้สูญที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐได้ส่งผลให้รายได้ของธนาคารทรุดตัวลงด้วย โดยการระดมทุนครั้งนี้จะดำเนินการผ่านทางการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ นอกจากนี้ HSBC ยังวางแผนที่จะปลดพนักงาน 6,100 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบหลังจาก AIG รายงานการขาดทุน 6.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนผลประกอบการตลอดทั้งปี 2551 นั้น AIG ขาดทุนสุทธิ 9.93 หมื่นล้านดอลลาร์
ข่าวการขาดทุนของ AIG และข่าวการระดมทุนของ HSBC ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงินอย่างหนัก โดยหุ้น HSBC ดิ่งลง 19% หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 12% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วงลง 43%
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากการที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะตกอยู่ในภาวะ "ระส่ำระสาย" ตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากสถาบันการเงินขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยเงินกู้แบบขาดวินัยในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู ซึ่งการแสดงความเห็นของบัฟเฟตต์มีขึ้นหลังจากสหรัฐเผยจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี