ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดิ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน 2 วันทำการในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้รับปัจจัยลบจากข่าวการขาดทุนอย่างหนักของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี), ข่าวการระดมทุนของธนาคาร HSBC และดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่หดตัวลงอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังถดถอยลงอย่างรุนแรง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 75.26 จุด แตะที่ 7,204.89 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดดิ่งลง 350.39 จุด แตะที่ 11,967.07 จุด
ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลง 19.09 จุด หรือ 1.87% แตะที่ระดับ 999.72 จุด และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดอ่อนดิ่งลง 2.21% แตะที่ 2,047.21 จุด
เอไอจีรายงานการขาดทุน 6.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผลประกอบการตลอดทั้งปี 2551 เอไอจีขาดทุนสุทธิ 9.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการรายงานผลประกอบการของเอไอจีมีขึ้นในขณะเดียวกับที่กระทรวงการคลังสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุว่า เอไอจี จะได้รับการอัดฉีดเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่รัฐบาลยื่นมือเข้ามาพยุงบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤติ เนื่องจากเกรงว่า เอไอจีอาจสร้างความเสียหายต่อระบบการเงินทั้งระบบได้
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ธนาคาร HSBC อาจต้องระดมทุนเป็นวงเงินสูงถึง 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตัวเลขเงินกู้หนี้สูญที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐได้ส่งผลให้รายได้ของธนาคารทรุดตัวลงด้วย โดยการระดมทุนครั้งนี้จะดำเนินการผ่านทางการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ นอกจากนี้ HSBC ยังวางแผนที่จะปลดพนักงาน 6,100 ตำแหน่ง
กระแสความวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีขึ้นหลังจากกระทรวพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของโรงงานทั่วประเทศสหรัฐขยับขึ้นสู่ระดับ 35.8 จุดในเดือนก.พ.จากเดือนม.ค.ที่ 35.6 จุด แต่ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต