นายเจริญ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2552 ได้ยื่นประมูลงานเพิ่มอีกคิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 25% เนื่องจาก TPOLY ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานในการทำงาน
ปัจจุบัน TPOLY มี Backlog มูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องในปี 2552-2553
สำหรับการซื้อขายหุ้น TPOLY เป็นครั้งแรกในวันที่ 4 มี.ค.นี้ เชื่อว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.80 บาทได้ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันถือได้ว่าตลาดหุ้น IPO ได้เปิดแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีหุ้นของ บมจ.แอปโซลูท อิมแพค (AIM) และ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เข้ามาทำการซื้อขายในวันแรก ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
ประกอบกับ TPOLY ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง สามารถสร้างผลประกอบการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรในอัตราที่ค่อนข้างสูง สวนทางกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ในขณะเดียวกันมีงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์และผลงานที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ ดังนั้นโอกาสในการได้รับงานจึงมีสูงขึ้นตามไปด้วย
"คาดว่าหุ้น TPOLY จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและโดดเด่น โดยเฉพาะในด้านของผลประกอบการมีการเติบโตต่อเนื่องในอัตราที่ค่อนข้างสูง สวนทางกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย นั่นเป็นเพราะเราดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม อาทิ มีการกระจายพอร์ตงานก่อสร้างประเภทต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งภาคเอกชนและกลุ่มภาคราชการ โดยกลุ่มลูกค้าเอกชนส่วนใหญ่จะเลือกกลุ่มที่มีแผนการลงทุนและการเติบโตระยะยาว และงานราชการเป็นกลุ่มที่มีงบประมาณในการพัฒนาระยะกลางถึงยาว ส่งผลให้ TPOLY ได้รับงานจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ จึงเชื่อว่าเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 4 มีนาคมนี้จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีและจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง"นายเจริญ กล่าว
สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ TPOLY กลุ่มนายเจริญ จันทร์พลังศรี จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันในบริษัทร้อยละ 68.33 จะลดลงเหลือร้อยละ 56.94 ของทุนชำระแล้ว สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 85% ส่วนที่เหลืออีก 10-15% จะนำไปซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานยิ่งขึ้น