นายสมชาย คุลีเมฆิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ (GC) คาดว่า ในปี 52 รายได้จะต่ำกว่าปี 51 ที่มีรายได้ 3.4 พันล้านบาท โดยปีนี้น่าจะทำรายได้ราว 2.8 -2.9 พันล้านบาท เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกปรับลดลงประมาณ 15% จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 บาท/กก. แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามรักษากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 77 ล้านบาทและรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ใกล้เคียงกับปี 51 ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท
"การจ่ายปันผลโดยปกติจ่ายสูงกว่า 70% จากนโยบายที่จ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% โดยในปี 51 ได้จ่ายในอัตราการจ่ายปันผล 84% ของกำไรสุทธิ ในปี 52 หวังว่าอย่างน้อยก็จะจ่ายได้เท่าเดิมเพื่อเรียกความมั่นใจของผู้ถือหุ้นและยืนยันว่าเราเป็นบริษัทที่เน้นการจ่ายปันผล ซึ่งจ่ายสูงสุดใน 50 อันดับแรกของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์" นายสมชายกล่าว
ส่วนอัตรากำไรสุทธิ ในปีนี้ พยายามให้อยู่ในระดับ 3% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 2.2% เนื่องจากปีก่อนถือว่าอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับต่ำมาก เนื่องจากมีการขาดทุนสต็อกสินค้า และภาระดอกเบี้ยจ่ายในระดับสูง แต่ปีนี้ คาดว่าจะไม่ม่การขาดทุนจากสต็อกสินค้า และภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ปรับตัวลดลง จากภาระหนี้ลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องพยายามดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า มีผลต่อบริษัทซึ่งเป็นผู้นำเข้าเม็ดพลาสติก และเมื่อปี 48 ที่เงินบาทอ่อนค่ามาก บริษัทเคยขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 12 ล้านบาท จึงพยายามจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยพยายามล็อกราคาซื้อขายกับซัพพลายเออร์ล่วงหน้า
นายสมชายกล่าวว่า ในปี 52 สัดส่วนรายได้จะมาจากเม็ดพลาสติกเกรดธรรมดา 70-75% เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษและวิศวกรรมลดลงเป็น 25% จาก 30% เพราะเม็ดพลาสติกเกรดนี้ใช้ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขณะนี้กำลังการผลิตลดลงต่อเนื่อง ส่วนเม็ดพลาสติกเกรดธรรมดาที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ยั้งมียอดการผลิตเติบโตดีอยู่