ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดิ่งลงถ้วนหน้าในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และกระแสคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐจะร่วงลงอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วง 228.54 จุด แตะที่ 7,204.95 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดร่วงลง 169.42 จุด แตะที่ 12,041.82 จุด และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลง 15.79 จุด หรือ 1.49% แตะที่ 1,042.39 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียซบเซาอย่างมากช่วงเช่านี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง 281.40 จุด หรือ 4.09% แตะที่ 6,594.44 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) หลังจากตรวจสอบบัญชีเตือนว่าหากจีเอ็มไม่สามารถลดตัวเลขขาดทุนและภาวะขาดแคลนเงินสด ก็อาจทำให้บริษัทตกอยู่ในภาวะไม่แน่นอนทางการเงิน ซึ่งข่าวดังกล่าวจุดปะทุให้เกิดความกังวลว่าจีเอ็มอาจล้มละลาย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานร่วงลง 31,000 ราย สู่ระดับ 639,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 670,000 ราย และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 650,000 ราย
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลง 650,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี