บมจ.อินโดรามา โพลีเมอร์ส(IRP) ระบุว่าจากต้นทุนน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ(Net Margin)ในปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับประมาณ 4% เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)เฉลี่ยจะดีขึ้นกว่าปีก่อน ในด้านรายได้ก็คาดว่าจะทำได้เพิ่มเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท จาก 4.09 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว และในปีนี้บริษัทจะเน้นการลงทุนต่อเนื่องตามแผนงาน โดยจะขยายสายการผลิตในสหรัฐ 2 ครั้ง ใช้เม็ดเงินลงทุนราว 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายอาลก โลเฮีย กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IRP กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่อุตสาหกรรมโพลิเมอร์สถือเป็นความต้องการของผู้บริโภค จึงยังทำให้มีความต้องการในระดับสูง รวมถึงเม็ดพลากสติก PET ด้วย ทำให้บริษัทคาดหวังรายได้ปีนี้ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 40,986 ล้านบาท
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะสูงกว่า 4% ในปี 51 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลง รวมถึงราคาน้ำมันที่ลดลงจะทำให้สเปรดปีนี้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 51 ที่อยู่ในระดับ 234 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ทั้งนี้ ประเมินว่าปริมาณขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านตัน จาก 7.78 แสนตันในปีก่อน เนื่องจากยอดขายที่เติบโตดีโดยเฉพาะเม็ดพลาสติกที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้มากขึ้น โดยเฉพาะประเภทแก้ว โดยการขยายการผลิตในสหรัฐฯ 2 ครั้ง คือ ในเดือน พ.ค. และ ก.ค.จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 4.32 แสนตัน จากปัจจุบัน 2.25 แสนตัน ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่อง ljงผลให้กำลังการผลิตรวมในปีนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 1.4 ล้านตัน จากประมาณ 8 แสนตันในปีที่แล้ว
"ยังมั่นใจว่ายอดขายของบริษัทจะยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องได้ เพระการที่เราผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นและก็ยังไม่เห็นการใช้ที่ลดลง หรือลดกำลังการผลิตลงในสหรัฐฯจากการที่เศรษฐกิจชะลอ และการที่เรามีธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ และการที่ธุรกิจ PET ยังมีการเติบโต จึงไม่น่ายากสำหรับผลประกอบการของเราในปีนี้" นายอาลก กล่าว