ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยไม่ถึง 0.1% เมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) โดยอัตราว่างงานสหรัฐที่พุ่งสูงในเดือนก.พ. ได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโลก และได้กลายเป็นปัจจัยลบถ่วงแรงบวกในช่วงเช้าหลังจากที่บริษัทโฆษณา WPP Plc เปิดเผยยอดขายดีเกินคาด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 0.87 จุด แตะระดับ 3,530.73 จุด มีหุ้นลบ 66 ตัว และบวก 36 ตัว และเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันที่ดัชนีร่วงลงท่ามกลางความกังวลว่าบริษัทการเงินต่างๆจะยังคงประสบภาวะขาดทุนและเศรษฐกิจจะเลวร้ายลงอีก
Wolseley Plc เป็นแกนนำหุ้นลบ หลังบริษัทผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ประปาและเครื่องทำความร้อนรายใหญ่ที่สุดในโลก เผยว่าบริษัทมีแผนการขายหุ้น ขณะที่ BT Group Plc บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลงเช่นกัน จากการที่มอร์แกน สแตนลีย์ แนะให้นักลงทุนขายหุ้น
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ.ที่ทะยานขึ้นสู่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ร่วงลง 651,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขจ้างงานร่วงลงมากกว่า 600,000 ตำแหน่ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าธุรกิจต่างๆยังลดการจ้างงานต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า กำไรของบริษัทในอังกฤษจะดิ่งลงมากกว่าในช่วง the Great Depression ท่ามกลางภาวะขาดทุนในอุตสาหกรรมการธนาคารและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง พร้อมปรับลดคาดการณ์ดัชนี FTSE 100 ในรอบ 12 เดือนลงมาอยู่ที่ระดับ 3,500 จากเดิมที่ 4,300
รัฐบาลประเทศต่างๆตั้งแต่สหรัฐไปจนถึงออสเตรเลียและจีนได้ออกมาตรการต่างๆในปีนี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยบริษัทการเงินทั่วโลกสูญเงินไปแล้วมากกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ และผลกำไรที่น่าผิดหวังของ Lloyds Banking Group และ Aviva Plc ผลักดันให้นักลงทุนขายหุ้น ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 20% แล้วในปีนี้