นายรัตนชัย นันทปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.นวลิสซิ่ง(NVL) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้เตรียมเงินสดไว้ประมาณ 500-600 ล้านบาท สำหรับซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)จากสถาบันการเงินต่างชาติเพื่อมาบริหารเอง โดยจะชะลอการให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถออกไปก่อน เนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการตามหนี้เอ็นพีแอลสูงกว่า โดยจะให้บริษัทลูก บริษัท เบลสซิ่ง แอสเสท เซอร์วิสเซส เป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ คาดว่าราคาที่จะซื้อหนี้เอ็นพีแอลจะมีราคาไม่ถึง 20% ของมูลค่าเต็ม และเมื่อรวมกับต้นทุนบริหารงานอีก 5% แล้ว ก็จะทำให้หนี้เอ็นพีแอลที่ซื้อมามีต้นทุนอยู่ประมาณ 25% เท่านั้น ดังนั้นหากตามหนี้ได้เกิน 25% จึงเท่ากับว่าส่วนที่เหลือเป็นกำไร โดยคาดว่าเมื่อสิ้นปีจะทำให้บริษัทมีรายได้มากกว่าปีที่ผ่านมาที่ขาดทุนอยู่ 120 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดสินเชื่อรวมอยู่ประมาณ 2,200 ล้านบาท แต่สิ้นปีนี้คาดว่าจะเหลือประมาณ 1,600 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำสาขาของบริษัทที่มีอยู่มาขายประกันชีวิตให้กับบริษัท กรุงไทยแอ๊กซ่าประกันชีวิตด้วย โดยคาดว่าปีนี้จะมีเบี้ยประมาณ 30 ล้านบาท และปีหน้าเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บริษัทสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 8-9% โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 291 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีรายได้ 306 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การขาดทุนในปีที่ผ่านมา 120 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้เสียของลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ให้บริการเช่ารถท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ และจากกลุ่ม SECC จำนวน 12 คัน เป็นการตั้งสำรอง 20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะสามารถตามหนี้ที่ตั้งสำรองไว้กลับมาได้ 80% และทำให้กลับมาเป็นกำไรได้
นายรัตนชัย กล่าวว่า สำหรันโยบายปันผลในปีที่ผ่านมานั้นจะเสนอให้กับที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เป็นผู้พิจารณาแต่เชื่อว่าคงจะไม่สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เพราะในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการขาดทุนอยู่และเชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะเข้าใจ แต่ในส่วนของรายได้ในปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา