โบรกฯ ห่วงกระตุ้นวอลุ่มยามนี้ยังยาก แนะเลื่อนเปิดเสรี-ช่วยลดรายจ่ายรอวันฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 9, 2009 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บล.ไซรัส(SYRUS)ให้สัมภาษณ์กับทาง"อินโฟเควสท์"ว่า การที่ทางการเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันแสดงความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางกระตุ้นวอลุ่มเทรดที่หดตัวมากในขณะนี้เป็นสิ่งที่ดี โดยแนวทางต่าง ๆ ที่นำเสนอกันออกมาล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ โดยเฉพาะใช้มาตรการภาษีสนับสนุนการลงทุนในระยะยาวเช่นเดียวกับการลงทุนผ่าน LTF หรือการหันมาเน้นหนักการพัฒนาตลาดอนุพันธ์

แต่การเพิ่มวอลุ่มเทรดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เป็นเรื่องยาก น่าจะหันมาช่วยเหลือให้โบรกฯอยู่รอดได้ โดยเฉพาะในแง่ของการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย และเลื่อนเปิดเสรีโบรกเกอร์ เพื่อเตรียมพร้อมขยับรับกระแสการลงทุนที่จะหลั่งไหลเข้ามาเมื่อพายุผ่านพ้นไปแล้วน่าจะมีผลดีกว่า

"ณ สถานการณ์ปัจจุบันจะทำให้โบรกเกอร์อยู่รอดได้จะต้องมีวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท/วัน แต่นี่วันหนึ่งมีแค่ 6,000 ล้านบาทมันก็ไม่ไหว แต่การเพิ่มวอลุ่มเทรดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มันยาก การทำโครงสร้างภาษีให้เหมือนกับกองทุน LTF ก็จะเป็นหนทางในการกระตุ้นวอลุ่มเทรดได้แค่ระดับหนึ่ง"นายกัณฑรา กล่าว

*หนุนใช้มาตรการภาษีเลียนแบบ LTF กระตุ้นลงทุนระยะยาว

"ผู้ลงทุนโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์ควรได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่นเดียวกับผู้ลงทุนผ่านกองทุน LTF และเวลานี้กองทุน LTF มีรายได้ที่มั่นคง ข้อเสนอที่จะให้ลดหย่อนภาษีสำหรับเงินลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปนั้นก็เป็นการสะท้อนแบบมาจากกองทุน LTF ที่ถือลงทุน 5 ปีขึ้นไป การลดหย่อนภาษีให้เหมือน LTF ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่โบรกเกอร์ และจะดึงลูกค้ากลับเข้าตลาดฯได้มากขึ้นด้วย

โดยส่วนตัวเห็นแต่ว่าทางสมาคมโบรกเกอร์ต้องการให้โครงสร้างภาษีน่าจะเหมือน LTF เพราะจุดนี้เองที่มองว่ามันยังบิดเบี้ยวอยู่นะในอดีต โครงสร้างภาษีมันก็แปลกอยู่ เพราะคนซื้อ LTF ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นระยะยาวเนี่ยประหยัดภาษีได้ ขณะที่คนซื้อหุ้นประหยัดภาษีไม่ได้

ถ้าจะเพิ่มวอลุ่มให้ตลาดฯ ในความหมายก็คือเพิ่มรายได้ให้แก่โบรกเกอร์ ถ้าประหยัดภาษีได้ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่โบรกเกอร์ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องซื้อ LTF แต่ให้มาซื้อหุ้นโดยตรงได้เลย"

*หุ้นซบ-หันโปรโมทตลาดอนุพันธ์ เล่นได้ทั้งขาขึ้น-ขาลง

"คิดว่าถ้าจะช่วยกันนะ ก็มาช่วยกันประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ แล้วหันมาช่วยกันโปรโมทตลาด TFEX จะดีไหม เพราะมันสามารถเล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง มาช่วยกันคุยทางด้านอนุพันธ์จะดีกว่า คือรุกตลาดอนุพันธ์ไปเลย เพราะหุ้นมันลงจะไปบอกให้ลูกค้าซื้อ ก็ต้องเป็น long term investment แต่ถ้าเราไปรุกตลาดอนุพันธ์ได้มันก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้วอลุ่มตลาดฯได้และโบรกฯก็มีรายได้

*เตือนโรดโชว์ตอนนี้ไร้ประโยชน์ แนะจัดบ้านพร้อมรับกระแสลงทุนไหลกลับ

"ในแง่ของการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย ก็มองที่ว่าเราพึ่งพาฝรั่งเยอะ เราก็ต้องเอาฝรั่งกลับมา ซึ่งการออกโรดโชว์เวลานี้ก็คงจะไม่เหมาะมั่ง เพราะแต่ละประเทศเขาก็ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจของเขาอยู่ สมมติเราไปโรดโชว์อเมริกาตอนนี้ เขาอาจจะยังไม่ได้ดูถนนสายนี้ในแง่ของการที่จะเพิ่มการลงทุนของเขา ซึ่งเขาคงจะต้องดูแลเศรษฐกิจของประเทศเขาก่อน"

แต่การทำของพวกเรา ต้องคุยกันว่าจะทำยังไงให้วันแรกที่ตลาดมันกลับมาดี สมมติเป็นกลางปีเศรษฐกิจฟื้นวันที่ 1 มิถุนายนหรืออะไรก็ตาม ทุกตลาดจะต้องหันมาหาเราอย่างรวดเร็ว แล้วเราก็ต้องรับออเดอร์ให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้ค่าเฉลี่ยมันดีขึ้น คือสภาพตลาดฯตอนนี้ก็คงเป็นไปตามสภาพตลาดโลก

เรามาคุยกันในการแชร์ความคิดเห็นว่าเราจะเตรียมพร้อมยังไงเมื่อตลาดฯกลับมาดี อย่างที่บอกเราขาดทุนไปครึ่งปี อีกครึ่งปีหลัง ถ้าเราได้คืนกลับมามันก็จะดี ขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียวใช่ไหม ถ้าเป็นผม ผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องของการเตรียมตัวมากกว่า"

*แนะเลื่อน/ยกเลิกเปิดเสรีโบรกเกอร์-ลดค่า Fee

"ก็มีการขอให้เลื่อนกำหนดการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นออกไป จากเดิมจะเริ่มในแบบขั้นบันไดในปี 2553 ก็อยากจะให้เลื่อนออกไปเป็นปี 2555 หรือยกเลิกไปเลยก็จะยิ่งดีโดยส่วนตัวคิดว่างั้นนะ เพราะตอนนี้เราก็ไม่กล้าทำอะไร พัฒนาอะไร เพราะรู้ว่าจะต้องเก็บฐานทุนไว้สู้ตอนเปิดเสรีฯ และเสนอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดค่า fee เพื่อช่วยเหลือโบรกฯ

อย่างไซรัสก็มีฐานทุนอยู่ตอนนี้ 700-800 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเพิ่มทุนไว้ก่อนหน้านี้ไง รอให้ตลาดฯกลับมาดี แต่ตรงนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาคุยกันถึงความยั่งยืนของธุรกิจหลักทรัพย์ในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่มาเปิดเสรีฯแล้วเจ๊ง จะได้เป็นสากลเลยทีนี้ มีแต่เขากำไรเป็นสากล นี่เจ๊งเป็นสากล..."

*หาหนทางประหยัดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายของโบรกเกอร์

"แล้วก็ให้ยกเลิกภาษีควบรวมกิจการและลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งถ้าฟังดูดี ๆ ส่วนนี้ไม่ได้ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้แก่ตลาดฯเลยนะ แต่เป็นการลดค่าใช้จ่าย แต่การลดค่าใช้จ่ายก็เป็นการช่วยทำให้โบรกเกอร์อยู่ได้ในช่วงภาวะแบบนี้ ช่วงนี้ไปชวนใครเล่นหุ้น แล้วใครจะซื้อ ซึ่งค่าใช้จ่ายลดลงก็ทำให้โบรกฯน่าจะมีกำไรบ้าง

และก็ดูว่าจะสามารถทำอะไรที่จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้บ้าง อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยีตรงนี้ที่เอามาใช้แล้วประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ ก็เอามาคุยกัน ก็ดีนะ มาแชร์ไอเดียกัน มีจุดตรงไหนบ้างที่จะทำให้เราประหยัดต้นทุนลง ในช่วงที่ตลาดฯมีวอลุ่มค่อนข้างบาง"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ