นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น(TWZ)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 52 ไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท จาก 3.3 พันล้านบาทในปี 51 ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/52 เริ่มเห็นสัญญาณว่าแนวโน้มยอดขายน่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/51 ราว 10-20% จากเฮ้าส์แบรนด์ที่มียอดขายดีขึ้น และมีโอกาสที่ปีนี้กำไรสุทธิจะกลับไปดีเท่าปี 50 ที่มีกำไรสุทธิประมาณ 70 ล้านบาท หลังจากปีก่อนกำไรตกลงไปเหลือ 33 ล้านบาท
เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทต้องโหมจัดโปรโมชั่นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมาก ทั้งการสร้างแบรนด์ TWZ และ Noktel ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของลูกค้า รวมทั้งใช้กลยุทธปรับลดราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันกับเฮ้าส์แบรนด์ของ i-mobile
ทั้งนี้ TWZ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ในปี 52 จะอยู่ที่ 10% จาก 7% ในปี 51 ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ 3% จาก 1% ในปี 51
นายพุทธชาติ กล่าวว่า รายได้หลักของ TWZ จะยังมาจากธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม ซึ่งปีนี้จะนำสินค้ารุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีมาทำตลาด เช่น โทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี Nerve Conduction ซึ่งใช้ระบบสั่นสะเทือนส่งคลื่นเสียงเข้าสู่การฟัง สำหรับการใช้โทรศัพท์ในบริเวณที่มีเสียงรบกวนสูง หรือ โทรศัพท์ที่สามารถเปลี่ยนเสียงผู้ใช้เป็นเสียงเด็กหรือเสียงคนแก่ได้ โดยทั้งหมดจะเปิดตัวเร็วๆนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่ด้วยการเป็นผู้รับจัดหาและผลิตโทรศัพท์มือถือให้ตรงความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น Tesco Lotus หากต้องการโทรศัพท์มือถือที่เป็บแบรนด์ของตัวเอง ก็สามารถระบุรูปทรง แบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อให้ทาง TWZ ผลิตให้ แต่มีเงื่อนไขต้องสั่งผลิตตั้งแต่ 500 เครื่องขึ้นไป
นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย TWZ กล่าวว่า ปีนี้จะมีการทุ่มงบการตลาดประมาณ 50 ล้านบาท สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง ปรับโฉมร้าน TWZ แบรนด์ช็อปให้เป็นรูปแบบเดียวกันทุกสาขา ทั้งที่เป็นเอ้าท์เล็ทของ TWZ เองที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 40 สาขา และที่เป็นช็อปให้ห้างสรรพสินค้าต่างๆ อีกประมาณ 50 แห่ง โดยคาดว่าจะใช้งบในส่วนนี้ประมาณ 20 ล้านบาท โดยจะมีการปรับสัดส่วนการขายแบรนด์ของบริษัทเป็น 70% และอินเตอร์แบรนด์ 30% คาดว่าจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ 1 แสนเครื่อง/เดือน
ด้านนายเขตรัตน์ ชื่นมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี กล่าวว่า ปัจจุบันในตลาดโทรศัพท์มือถือเฮ้าส์แบรนด์ด้วยกันทั้งหมด 8 ล้านเครื่อง TWZ มีส่วนแบ่งการตลาด 13% เป็นอันดับ 2 รองจาก i-mobile ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 20% โดยคาดว่าหากเราทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เชื่อว่าปี 52 TWZ น่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16%
นายพุทธชาติ กล่าวต่อว่า บริษัทยังมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปต่างประเทศด้วย เช่น ลาว กัมพูชา และร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับเวียดนาม ซึ่งคาดว่าในช่วงแรกจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 1 หมื่นเครื่อง/เดือน
และ เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการของภาครัฐเกี่ยวกับเช็คช่วยชาติมูลค่า 2 พันบาทที่จะแจกให้ประชาชนนั้น TWZ ก็จะจัดโปรโมชั่น หรับลูกค้าที่นำเช็คดังกล่าวมาใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือเฉพาะรุ่นของ TWZ จากราคาปกติ 2,900 บาท สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ 2,000 บาท โดยโปรโมชั่นนี้จะจัดประมาณ 1-2 เดือนนับตั้งแต่วันที่รัฐบาลเริ่มแจกจ่ายเช็ค
*อนาคตตั้งบริษัทดูแลเฉพาะอสังหาฯ
นายพุทธชาติ กล่าวถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า ปลายปีนี้จะเปิดขายโครงการแรกแน่นอน ซึ่งเป็นโฮมออฟฟิศเพื่อการพาณิชย์ อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก โดยบริษัทตั้งเป้าผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไว้ที่ประมาณ 20% ซึ่งมั่นใจว่าโครงการแรกนี้จะคืนทุนทันที
และมีแนวโน้มจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ เพิ่มอีกเรื่อยๆ ซึ่งหากในอนาคตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างยอดขายและทำรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญก็อาจจะมีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจนี้โดยเฉพาะ
แต่หากเปรียบเทียบมาร์จิ้นระหว่างธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้จะยอมรับว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มาร์จิ้นที่สูงกว่า แต่ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือการหมุนเวียนของสินค้าสามารถสร้างยอดขายได้เร็วกว่า บริษัทยังมีนโยบายที่จะดำเนินธุรกิจทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน