MAJOR เผยงบลงทุนปี 52 ที่ 1 พันลบ. ตั้งเป้าเปิดปีละ 5-6 สาขาทั่วปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 9, 2009 12:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนขยายสาขาเพิ่ม โดยใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการขยายสาขาโรงภาพยนตร์ 3 สาขา เป็นสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลน 1 สาขาในแบรนด์เอสพลานาดซีนีเพล็กซ์ สาขารัตนาธิเบศร์ ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 16 โรง 4,200 ที่นั่ง โบว์ลิ่งในแบรนด์ บลูโอ-โบว์ล 22 เลน คาราโอเกะ 15 ห้อง และ ไอซ์สเกต ซับซีโร่

นอกจากนั้น ยังมี เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขาอมตะนคร จำนวน 5 โรง และ เพิ่มโรงภาพยนตร์ที่ อีจีวี สาขาโครราช อีก 2 โรง (จากเดิม 6 โรง) นอกจากนี้ยังขยายธุรกิจโบว์ลิ่งไปยังประเทศอินเดียโดยจะเปิดให้บริการที่นิวเดลี 24 เลน และบังกาลอร์ 28 เลน

MAJOR คาดว่าในปีนี้ธุรกิจจะเติบโตได้ เนื่องจากในปีนี้จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่สามารถทำเงินเข้าฉายใกล้เคียงกับภาพยนตร์ในปี 50 ที่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายหลายเรื่อง โดยในปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้าฉายรวมทั้งสิ้นกว่า 200 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ต่างประเทศประมาณ 150 เรื่อง ภาพยนตร์ไทยประมาณ 50 เรื่อง

และมีภาพยนตร์ที่คาดว่าจะทำเงินถึง 100 ล้านบาท และ 50 ล้านบาท ประมาณ 25 เรื่อง อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง ความจำสั้นแต่รักฉันยาว, โหด หน้า เหี่ยว, บีฟอร์วาเลนไทน์, ก้านกล้วย 2, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอนยุทธหัตถี, องค์บาก 3, Harry Potter: Half Blood Prince, Terminator Salvation, Night At The Museum, Transformers

"แม้ในปีนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจนติดลบและเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง แต่ในส่วนของธุรกิจโรงภพายนตร์รวมถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่เป็นธุรกิจ Local Consumption คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ โดยธุรกิจโรงภาพยนตร์เป็นความบันเทิงราคาถูกที่ทุกคนสามารถบริโภคได้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบเหมือนธุรกิจส่งออก"นายวิชา กล่าว

ประกอบกับ ปัจจัยภายในประเทศอย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยยังเติบโตถึง 50% และจะเพิ่มการผลิตภาพยนตร์มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนโรงภาพยนตร์ครอบคลุมตลาดทั่วทั้งประเทศไม่เฉพาะตลาดในกรุงเทพฯ ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจะเติบโตและส่งออกได้อย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลี

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญการปราบปรามแผ่นผีซีดีเถื่อนจริงจังเพิ่มมากขึ้น ก็ส่งผลดีต่อโรงภาพยนตร์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้มีการขยายตัว สำหรับในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้หากรัฐบาลสามารถผลักดันเรื่องของการบริโภคภายในประเทศ (Local Consumption) ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศได้ ก็จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้

ด้านนายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ MAJOR กล่าวว่า ในช่วงซัมเมอร์นี้จะมีการจัดกิจกรรมการตลาดตอบสนองทุกกลุ่มลูกค้าแบบ Segmentation ทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น, คนทำงาน และผู้สูงอายุ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ