บมจ.แอล.วี.เทคโนโลยี(LVT)คาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 52 น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำรายได้ประมาณ 1.37 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีงานในมือ(Backlog) ราว 2 พันล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างประเทศ หวังว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
นายชูชาติ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ LVT กล่าวว่า รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้จะมาจากการรับรู้จาก Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะรับรู้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท และที่เหลือจะไปรับรู้ในปี 53 โดยงานเกือบ 50% มาจากการปรับปรุงงานระบบวิศวกรรมในโรงปูนซีเมนต์ ซึ่งลูกค้าจะเป็นกลุ่มประเทศในจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และ ปากีสถาน
"เราอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดใหม่ๆ อาทิ ประเทศแถบอเมริกาใต้ เวียดนาม พม่า โดยบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานในประเทศ ซีเรีย ปารากวัย และ พม่า ซึ่งมูลค่างานประมาณแห่งละ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังว่าจะได้งานอย่างน้อย 1 งาน โดยคาดว่าจะสรุปดีลได้ก่อน ก.ค.52 "นายชูชาติ กล่าว
สำหรับปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin) ประมาณ 6-8% ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ และเชื่อว่าสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอสำหรับการรองรับงาน โดยในปีนี้บริษัทหวังว่าจะมีงานใหม่ในมืออีกประมาณ 1 พันล้านบาท โดยมีแผนที่จะเพิ่มบุคลากรจาก 138 เป็น 150 คน
"งานปรับปรุงระบบโรงปูนซีเมนต์เก่า คู่แข่งน้อย แต่ถ้าเป็นงานวางระบบโรงปูนฯใหม่จะมีคู่แข่งจากจีนและยุโรป ซึ่งบริษัทไม่เน้นเข้าไปแข่งขันงานตรงนั้น" นายชูชาติ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังไม่มีแผนจะออกวอร์แรนต์ชุดใหม่ หลังจาก LVT-W1 หมดอายุไป
ส่วนปัจจัยจากเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทมากหนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ น้อย และเชื่อว่าการเข้าไปหาตลาดใหม่ๆ จะช่วยให้บริษัทสามารถมีรายได้ต่อเนื่อง