(เพิ่มเติม) D1เล็งพัฒนาที่ดินใหม่ปี 53,เป้าปีนี้รายได้โต15-20%เดินหน้าโรงไฟฟ้าเขมร

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 10, 2009 13:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดราก้อน วัน (D1) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 52 น่าจะเติบโต 15-20% จากปี 51 ที่มีรายได้ 360 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจไอที ประมาณ 80% และยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ส่วนที่เหลือ 20% เป็นรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเติบโตกว่า 25% จากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้มีธุรกิจประสบปัญหาสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น

"ตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ มีธุรกิจที่เดือดร้อนมาขอคำปรึกษาเพิ่มมากขึ้น มีทั้งธุรกิจอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บางรายมีหนี้ 2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ขาดสภาพคล่อง กู้แบงก์ไม่ได้ ก็มาให้เราช่วยหาพาร์ทเนอร์ต่างชาติมาลงทุน หาเงินกู้จากองทุนฮ่องกง สิงคโปร์ ดูไบ เพราะพวกนี้เงินทุนยังแข็งแรง"นายจเรรัฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่กังวลเรื่องผลประกอบการขาดทุน เนื่องจากยังมีกระแสเงินสดเหลืออยู่อีก 200-300 ล้านบาท และไม่มีหนี้ เพราะฉะนั้นเวลานี้เห็นสินทรัพย์อะไรถูกๆ ก็ซื้อเก็บเอาไว้ก่อน อย่างเช่นที่ดินย่านศรีนครินทร์ที่ซื้อจากกลุ่มเตชะอุบล ซึ่งมองว่าน่าจะมีค่าในอนาคต

"เราเพิ่งลงทุนในที่ดินย่านศรีนครินทร์ อยู่ตรงข้ามซีคอนสแควร์ ตอนนี้ขาลงเราต้องซื้อของถูกเก็บเอาไว้ และเพิ่มทุนให้พาร์ทเนอร์ที่เรามองว่ามีความเหมาะสมกับธุรกิจของเราในอนาคต สำหรับที่ดินแปลงนี้ ลงทุนเพราะเห็นที่แล้วถูกใจ ทำเลดี มีคนผ่านเข้าออกเยอะมาก มีรถสองแถว มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง อีกหน่อยก็จะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอุดมสุข แบริ่ง ก็ตามหาเจ้าของ มารู้ทีหลังว่าเป็นของเตชะอุบล ซึ่งก็รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ไออีซี"นายจเรรัฐ กล่าว

นายจเรรัฐ กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้สามารถทำได้หลายอย่างทั้งโครงการในแนวราบแนวสูง เช่น อพาร์ตเม้นท์ราคาถูก คอนโดฯ ราคาระดับกลาง หรือช้อปปิ้งมอลล์ขนาดเล็ก แต่คาดว่าจะยังไม่ได้เห็นในปีนี้แน่นอน เพราะปีนี้เศรษฐกิจยังเป็นขาลง คาดว่าคงจะเริ่มคิด ตัดสินใจทำโครงการในปีหน้า

"ไม่มีทางที่โครงการที่ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะกว่าจะออกแบบ สำรวจความคิดเห็นผู้คนที่อยู่ในย่านนั้น ศึกษาความเป็นไปได้ ขอใบอนุญาตสิ่งแวดล้อม ปีนี้เป็นช่วงคิดรูปแบบโครงการมากกว่า และอยากซื้อมาเพิ่มมูลค่าบริษัทให้สูงขึ้นในแง่ Book Value คิดเอาไว้ก่อน แต่ยังไม่เห็นการสร้างอะไรทั้งสิ้น "นายจเรรัฐ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าเรื่องโรงไฟฟ้าที่กรุงไพลิน ประเทศกัมพูชา ล่าสุดได้รับใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลกัมพูชาแล้ว เหลือแต่รอใบอนุญาตการก่อสร้าง และใบอนุญาตขายไฟฟ้า แต่คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ตามกำหนดคือปลายปี 52 แล้วเสร็จปี 55


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ