บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) ตัดงบลงทุนปีนี้เหลือแค่ไม่ถึง 1 พันล้านบาท เน้นเฉพาะส่วนที่จำเป็นรับมือเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่แผนลงทุนในตะวันออกกลางชะลอออกไปหลังจากพันธมิตรไม่พร้อม เดินหน้าเปิดโรงพยาบาลที่ลงทุนไปแล้วตามแผนงานทั้งที่พนมเปญและหัวหิน แต่ยังตั้งเป้าสูงรายได้ปีนี้เติบโตได้ 8-10% หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าปีก่อน
นายวัลลภ อธิคมประภา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BGH กล่าวว่า บริษัทจะใช้ความระมัดระวังด้านรายจ่ายในปีนี้ โดยได้ตั้งงบลงทุนไว้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ลงทุนไปถึง 2 พันล้านบาท โดยเน้นการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นต่อการเปิดสาขาใหม่ที่กรุงพนมเปญ ที่มีขนาด 100 เตียง ซึ่งมีกำหนดเปิดทำการในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ เฟสแรกจะมีจำนวน 50 เตียงก่อน
ขณะที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ที่หัวหินขนาด 50 เตียงคาดว่าจะเปิดเฟสแรกให้บริการได้ในปี 53 ขณะนี้อยู่ระหว่างรออใบอนุญาต ด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะได้รับหลังสงกรานต์นี้
ส่วนการลงทุนโรงพยาบาลสาขาใหม่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตห์ออกไปก่อนเนื่องจากพันธมิตรขอถอยไปตั้งหลักก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ หากทุกอย่างดีขึ้นก็อาจนำมาพิจารณาใหม่
"นับเป็นครั้งแรกที่ BGH ลงทุนไม่ถึง 1 พันล้านบาท เพราะปกติเราต้องลงทุนหลายพันล้านต่อปี ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ขอให้โรงพยาบาลในเครือชะลอแผนลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด รวมถึงจะไม่ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ใหม่ที่เกินความจำเป็น และเราหวังว่าจะสร้างวอลุ่มคนไข้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้รายได้ทั้งปีคงการเติบโต"นายวัลลภ กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เชื่อว่ารายได้ BGH ในปีนี้น่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 2.1 หมื่นล้านบาท และยังหวังว่าจะมีโอกาสผลักดันให้รายได้เติบโตได้ถึง 8-10% และพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 7.6% เอาไว้ โดยจะเน้นเพิ่มปริมาณผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในเครือทุกแห่งให้เพิ่มขึ้นโดยจะมีการลดราคาบ้าง และปรับปรุงการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจทำให้การแข่งในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านราคา แต่เชื่อว่าจะมีขีดจำกัด เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลมีต้นทุนด้านบุคลากรและอุปกรณ์ค่อนข้างสูง