นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เพิ่มสินสตีลเวิร์ค(PERM) ยืนยันกุมหุ้นส่วนใหญ่กว่า 65% ไม่ปล่อย ไม่ห่วง"ยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ"รุกคืบส่งตัวแทนนั่งบอร์ดขอเอี่ยวงานบริหาร ขอให้รอผลประชุมผู้ถือหุ้น 9 เม.ย. ส่วนศาลนัดไกล่เกลี่ยเลื่อนยาวเป็น 7-8 ส.ค. และไม่กังวลข่าวแบ็คดอร์ลีสติ้ง มองหุ้นพุ่งแรงตามการเก็งกำไร เพราะปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน
"เรื่องคุณยุทธพงษ์เราเข้าบอร์ดรับเรื่องไว้แล้ว ก็จะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเท่านั้น โดยบอร์ดก็ยังไม่ว่าอะไร คงไปว่ากันในวันประชุมใหญ่ หลังจากนี้จะเข้ามาเป็นกรรมการได้หรือไม่ ผมคิดว่าไม่ง่ายหรอก...แต่เรื่องนี้ผมตอบแทนผู้ถือหุ้นไม่ได้ ยังไงก็ต้องวันที่ 9 เม.ย.นี้" นายชูเกียรติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายชูเกียรติ กล่าวว่า การประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะมีการลงมติข้อเสนอของนายยุทธพงษ์ ซึ่งระบุว่าเข้ามาถือหุ้นแล้วราว 17-18% และต้องการส่งตัวแทน 2 คนมาเป็นกรรมการ และอีก 1 คนมาเป็นกรรมการตรวจสอบ เรื่องนี่ก็ขึ้นกับการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ส่วนประเด็นที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยข้อเรียกร้องดังกล่าวของนายยุทธพงษ์ก็ว่ากันไป
ทั้งนี้ กรรมการที่จะหมดวาระก็จะมีตนเองและกรรมการตรวจสอบอีกรายหนึ่ง ตรงนั้นก็คงจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่จะโหวตเข้ามาอีกครั้งหนึ่งในวันประชุมผู้ถือหุ้น
สำหรับกระแสข่าวที่มองว่ากันว่านายยุทธพงษ์อาจต้องการใช้ PERM เป็นช่องทางแบ็คดอร์ลิสติ้งเพื่อนำธุรกิจส่วนตัวเข้าตลาดหุ้นนั้น นายชูเกียรติ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันกลุ่มของตนเองถือหุ้นรวมกันมากกว่า 65% และไม่ได้ขายออกมาเลย โดยเฉพาะหุ้นส่วนตัวตั้งแต่เข้ามาตลาดมา 3 ปีกว่าก็ไม่เคยขาย
"ทุกอย่างต้องไปว่ากันวันที่โหวต ซึ่งตอนนี้ถือว่าคุณยุทธพงษ์แค่เป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งที่ทำหนังสือขอเป็นกรรมการเท่านั้น ซึ่งผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ก็ทำได้ ไม่เฉพาะกลุ่มคุณยุทธพงษ์ ขณะที่ปัจจุบันในกลุ่มผม ครอบครัวผมถือหุ้น 65% ขึ้นไป ตรงนี้ก็เป็นคำตอบอยู่แล้วว่าจะออกมาอย่างไร ขณะที่คุณยุทธพงษ์ตามที่ให้ข่าวถือหุ้น 17-18% ส่วนของนโยบายการบริหารตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร"นายชูเกียรติ กล่าว
ด้านราคาหุ้น PERM ที่ปรับตัวอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง 2 วันนี้ จากเมื่อวานที่ราคาพุ่งชนซิลลิ่ง นายชูเกียรติ กล่าวว่า น่าจะมาจากแรงเก็งกำไรจากข่าวที่เกิดขึ้น จึงอยากจะเตือนนักลงทุนให้ดูปัจจัยของบริษัทเป็นหลัก เพราะปีนี้ผลประกอบการของบริษัทก็เป็นในลักษณะการพยุงตัวยังไม่ได้โดดเด่นเช่นเดียวกับภาพรวมอุตสาหกรรม ดังนั้นลงทุนก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง
"หุ้นที่ขึ้นวันนี้คงไม่ใช่ปัจจัยที่แท้จริงของบริษัท เป็นการเก็งกำไร เป็นประเด็นที่สำคัญมากที่นักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาเก็งกำไรเรื่องนี้ อย่างที่เรียนว่าไม่มีปัจจัยอะไรสนับสนุน เพราะธุรกิจก็ไปเรื่อยๆ และหุ้น 2 วันนี้ขึ้นมา ก็เป็นห่วงว่านักลงทุนรายย่อยจะไม่เข้าใจและไม่ทราบถึงรายละเอียดว่าปีนี้เป็นปีที่เรายังไม่ได้ทำอะไรที่หวือหวามากยังไม่ได้ลงทุนอะไรมาก" นายชูเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.56 น.หุ้น PERM บวกต่อ 18.71% มาอยู่ที่ 1.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าการซื้อขาย 33.37 ล้านบาท