นส.ชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเอ็นดีที(TNDT)กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายทางธุรกิจในปี 52 โดยกำไรสุทธิจะมีอัตราเติบโตที่ 15% จากปีก่อนมีกำไร 50.79 ล้านบาท ส่วนรายได้มีเป้าเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 249 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทพยายามเพิ่มสัดส่วนงานการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงทางด้านวิศวกรรมความปลอดภัย ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า 40% ให้ได้เพิ่มมากขึ้น และปีนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้จะมาจากงานงานการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงฯ เพิ่มเป็น 5% จาก 2%ในปีก่อน
และคาดว่าผลประกอบการของบริษัท รายได้และกำไร ในไตรมาส 1/52 จะดีกว่าไตรมาส 1/51 เนื่องจากบริษัททยอยรับรู้รายได้ จากมูลค่างานคงค้าง(backlog)อยู่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้และพยายามเพิ่มงานประมูลใหม่เข้ามาเพื่อรักษางานในมือเอาไว้ให้อยู้ระดับประมาณ 200 ล้านบาทในสิ้นปี 52
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนขยายงานในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเน้นประเทศกำลังพัฒนา อาทิ ลาว เขมร และ พม่า ที่จำเป็นจะต้องมีการใช้งานด้านวิศวกรรมความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ส่วนประเทศพัฒนาแล้วเป็นเรื่องยากที่บริษัทจะเจาะตลาดเข้าไป เพราะมีคู่แข่งมากอยู่แล้ว
ส่วนการจ่ายเงินปันผล บริษัทยังนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แม้ว่าบริษัทจะมีเงินสดเหลืออยู่ประมาณ 80 ล้านบาท แต่ต้องการจะเก็บเงินไว้เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะปี 53 ที่ยังคงต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีและบุคคลากรอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ที่ใช้เงินประมาณ 30 ล้านบาท จึงต้องการเก็บเงินสดไว้ก่อนรองรับการลงทุน แต่หากไม่มีการลงทุนก็มีความเป็นไปได้จะมีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
"จากที่นักลงทุนอยากเห็นให้เราปันผลเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ เพราะเรามีเงินสดสูงถึง 80 ล้านบาทแต่เพื่อความปลอดภัยและการลงทุนในอนาคต ก็ขอเก็บเงินส่วนนี้ไว้ก่อน"นส.ชมเดือน กล่าว