บลจ.ไอเอ็นจีคลอด 3 กองทุนเปิด ‘ไทย ไลฟ์ไซเคิล’ เปิดขาย 19-26 มี.ค.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 11, 2009 11:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวกองทุนใหม่ 3 กองทุนในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล" (ING Thai Lifecycle Fund) ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความมั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน

กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%

ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด

“กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล" ทั้ง 3 กองทุน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกัน ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552 โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ