นายกโบรกฯ ต่างชาติคาดหุ้นไทยซึมยาวถึง Q2/52 สาเหตุหลักวิตกศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 11, 2009 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บล.ซิตี้ คอร์ป(ประเทศไทย) และในฐานะนายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ซบเซาเพราะขาดเม็ดเงินจากภายนอกประเทศเข้ามาลงทุน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงมีความวิตกต่อปัญหาเศรษฐกิจโลก และคาดว่าตลาดยังคงสภาพนี้ไปจนถึงไตรมาส 2/52 จากนั้นช่วงไตรมาส 3-4/52 ตลาดฯอาจจะกลับมาคึกคักได้มากขึ้น แต่ก็ต้องรอดูว่ากระแสข่าวต่าง ๆ จะออกมาเป็นอย่างไรด้วย

"ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว(2551)ต่างชาติก็มองตลาดหุ้นไทยดีขึ้น เรียกความมั่นใจให้กลับมาได้บ้าง เพียงแต่ต่างชาติยังไม่ได้ทำอะไรมากมายเพราะยังวิตกเศรษฐกิจทั่วโลก ถ้าเทียบกับประเทศอื่นในเอเชียแล้วตลาดบ้านเรายังเล็กอยู่ดี แล้วถ้าตลาดทั่วโลก move เม็ดเงินก็จะไหลเข้าไปตลาดใหญ่ก่อน"มล.ทองมกุฎ กล่าว

ความวิกฤตที่มีต่อวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้ ทำให้เม็ดเงินลงทุนในตลาดทั่วโลกได้หดหายไปมาก แม้แต่ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากภาคการส่งออกที่หดตัวลง ดังนั้น คนไทยจะต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจด้วยการป้องกันให้เศรษฐกิจไม่แย่ลงไปอีก ซึ่งก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือประเทศของเราได้

"มันเป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ทำให้เห็นว่าประเทศไทยต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจ คือคนไทยยังไม่มั่นใจตัวเอง เพราะการเมืองมันยังไม่ดี ยังมีเรื่องจุกจิกอยู่ พวกเสื้อแดงเสื้อเหลือง ทำให้ความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในเมืองไทยยังลำบาก และแน่นอนเรื่อง export เราได้รับผลกระทบอยู่แล้ว ดังนั้น การป้องกันเศรษฐกิจไทยไม่ให้มันแย่ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง ทำให้เมืองไทยมีจุดเด่นนิดหนึ่งนะ"นายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติ กล่าว

มล.ทองมกุฎ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ทางซิตี้กรุ๊ปยังมองที่ 550 จุด แต่ถ้าเกิดกรณีเลวร้ายสุดก็มองว่าดัชนีอาจลงไปถึงระดับ 360 จุด ซึ่งหากมีข่าวดีเข้ามาและทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามา ก็เชื่อว่าไม่นานดัชนี SET ก็สามารถวิ่งขึ้นไปถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก แค่มีอะไรที่จะมาผลักดันให้ขึ้นไปได้เท่านั้น เพราะเป้าหมายที่มองห่างจากดัชนี SET ณ ขณะนี้แค่ 100 กว่าจุดเอง แต่ปัญหาคือจะมีอะไรที่จะผลักดันให้ขึ้นต่อไป

"ตลาดหุ้นไทยยังลำบาก ถ้า Global เป็นอย่างนี้ แต่ตลาดฯยังมีดีในเรื่องที่สถาบันการเงินไทยยังมีความแข็งแรงดีอยู่ ไม่มีปัญหาเหมือนแบงก์ต่างชาติ รัฐบาลก็ดูดีขึ้น ในเรื่องการเมืองก็ดูดีขึ้น แม้ว่าจะมีเรื่องจุกจิกอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่าน่าจะโอเคอยู่ ตอนนี้รอดูนโยบายของรัฐบาลว่าจะ effective ขนาดไหน มันต้องมีแรง การจ่าย 2 พันบาทก็ต้องใช้เวลาบ้าง และต้องดูว่าจะมีอย่างอื่นเข้ามาอีกหรือเปล่า"มล.ทองมกุฎ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ