บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI)คาดว่าธุรกิจในปี 52 ยังมีการเติบโตจากปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายกำไรสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 164 ล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งหากบริษัทมีกำไรเท่าใดในงวดปีนี้ก็จะจ่ายปันผลทั้งจำนวน
นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AI กล่าวว่า รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน เพราะคาดว่าจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันพืชเกิดขึ้นอีก หลังจากปี 51 มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันถึง 80 ล้านบาท
“ปีก่อนงบเดี่ยวเฉพาะธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้ากำไรถึง 318 ล้านบาท แต่บริษัทอื่นในเครือขาดทุนทั้งธุรกิจน้ำมันพืชและโลจิสติกส์ แต่ปีนี้เชื่อว่าจะกลับเริ่มกลับมามีกำไรได้ โดยเฉพาะราคาน้ำมันพืชจะไม่ผันผวนเหมือนปีที่ผ่านมา และหากราคาน้ำมันปาล์มสามารถแข่งขันได้เราจะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศแถบอาเซียนด้วย"นายธนิตย์ กล่าว
บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการในปี 52 ทั้ง 100% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่านโยบายของบริษัทที่กำหนดไว้ 40% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากเป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)
นายธนิตย์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่ารอผลการเข้าประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่างานรวมกว่า 1.5 พันล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะได้งานอย่างน้อย 25% ของมูลค่าทั้งหมดที่เข้ประมูล คาดว่าจะรู้ผลใน 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะรับรู้รายได้บางส่วนจากงานใหม่ในปลายปีนี้ด้วยหากการส่งมอบพื้นที่เร็ว และที่เหลือจะเป็นมูลค่างานคงค้างเพื่อรับรู้รายได้ในปี 53
นอกจากนั้น บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจท่าเรือและคลังสินค้าเข้ามาพิ่มเติมในปีนี้ โดยคลังน้ำมันที่สมุทรสาครที่มีขนาด 16 ล้านลิตร และที่ชุมพร 20 ล้านลิตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนเม.ย.และสร้างรายได้ในครึ่งปีหลังโดยประมาณการไว้ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นท่าเรือ 100 ล้านบาท และคลังน้ำมัน 100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจวิศวกรรมประมาณ 500 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากมูลค่างานคงค้างในมือ 650 ล้านบาทที่คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้ 70% ของมูลค่างาน