ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข่าวเจพีมอร์แกนทำกำไร หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 3.91 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 12, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่าธนาคารสามารถทำกำไรได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงิน โดยก่อนหน้านี้ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ปได้ออกมาสร้างความฮือฮาให้กับตลาดด้วยการประกาศว่าธนาคารสามารถทำกำไรในเดือนม.ค.-ก.พ.เช่นกัน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 3.91 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 6,930.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.76 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 721.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.36 จุด หรือ 0.98% แตะ 1,371.64 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.75 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.24 พันล้านหุ้น

ด็อจ โรเบิร์ตส์ นักวิเคราะห์จาก ChannelCapitalResearch.com เปิดเผยว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากนายเจมมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนกล่าวว่าธนาคารสามารถทำกำไรได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป เชื่อมั่นว่า ซิตี้กรุ๊ปจะสามารถทำกำไรได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่ธนาคารสามารถทำกำไรได้ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.-ก.พ.

ก่อนหน้านี้ซิตี้กรุ๊ปประสบกับภาวะผลประกอบการขาดทุนเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงห้าไตรมาส โดยไตรมาสหลังสุดที่ธนาคารมีกำไรคือไตรมาสสามปี 2550 ด้วยผลกำไร 2.1 พันล้านดอลลาร์

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรุงวอชิงตันว่า รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้อง "ยกเครื่อง" ระบบการกำกับดูแลด้านการเงินภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างสถานะของธนาคารพาณิชย์ กองทุนรวม และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงที่เศรษฐกิจทรุดตัวลง

อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เชื่อว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะสิ้นสุดลงในปีนี้หากรัฐบาลประสบความสำเร็จในการกู้วิกฤตการณ์ในภาคเอกชนและทำให้ตลาดการเงินกลับมาทำงานได้ตามปกติ หลังจากสหรัฐถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่สองและถือเป็นสถิติที่ถูกกระทบยาวนานที่สุดในรอบ 25 ปี

ขณะที่แปซิฟิก อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ (PIMCO) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลกและบริหารโดย บิล กรอส คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออีกรอบ ซึ่งเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ และมาร์ค ฟาเบอร์

"เราคาดว่าภาวะเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในระยะกลางนี้ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกอาจทำให้ราคาสินค้าและค่าบริการพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ การที่กลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์เลื่อนโครงการต่างๆออกไป อาจทำให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัวในตลาดโลก ซึ่งจะยิ่งทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอีก" PIMCO กล่าวในรายงานคาดการณ์

ข่าวการทำกำไรของเจพีมอร์แกนช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่ง 3.1% โดนหุ้นเจพีมอร์แกนปิดบวก 4.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่ง 6.2% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาปิดบวก 2.9%

ส่วนหุ้นแอปเปิลปิดพุ่ง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPod เวอร์ชั่นใหม่ ขณะที่หุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด (HP) ปิดบวก 5.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศเพิ่มอันดับเครดิตให้กับ HP


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ