นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากที่บอร์ดรฟม.ตีกลับผลเจรจา บมจ.ช.การช่าง (CK) สั่งบีบลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสีม่วงสัญญา 1 ลงอีก ว่า ก็ยังต่อรองไม่ได้เพราะตอนนี้ลดลงไป 7% คิดว่าไม่มีผลกระทบเยอะเพราะเท่าที่คุยกับ CK บอกว่าอยู่ในคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะมีการต่อรองราคาลงมา เพราะฉะนั้นคิดว่าในกรณีที่ลงมา จากอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 10% อาจจะลดลงมาเหลือ 9% มองว่าไม่ได้กระทบเยอะ แต่ในทางตรงข้ามรายได้ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ที่เยอะและก็จะให้รายได้ในระยะยาวด้วยเพราะทำหลายปี
"มองว่าไม่ได้กระทบ ในส่วนของนักลงทุนอาจจะกังวลว่าโดนต่อราคาลงมากำไรจะหายหรือเปล่า แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าไม่ได้ลดลงไปเยอะอยู่ในคาดการณ์ของ CK อยู่แล้ว ไม่น่าจะมีผลต่อราคาเพราะคิดว่าในที่สุดก็น่าจะจบได้" นักวิเคราะห์ กล่าว
ยัง"แนะ"ซื้อให้ราคาเป้าหมาย 3.58 บาท
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ระบุแม้การเจรจาที่ล่าช้าอาจมีผลลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่หากพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐาน SCRI เชื่อว่า CK ยังคงมีความเป็นไปได้สูงในการได้งานโครงการรถไฟฟ้าสัญญาที่ 1 และราคาค่าก่อสร้างที่ปรับลดลงยังไม่ส่งผลประทบต่อผลประกอบการที่ SCRI คาดไว้ ดังนั้น ในปี 2552 อัตรากำไรขั้นต้นที่คาดจะปรับสูงขึ้นจาก 9% มาอยู่ในระดับ 10% เมื่อบวกกับการได้งานโครงการรถไฟฟ้า และงานด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP จะช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้าให้แก่ CK และ SCRI ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อการเข้าถือหุ้นใน TTW BMCL และ BECL ซึ่งจะช่วยรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจในปี 2552 จากกระแสเงินสดที่ส่งผ่านเข้ามา โดยคาดว่าจะช่วยหนุนให้ EBITDA สูงขึ้นเป็น 859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% yoy และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 47% เป็น 257 ล้านบาท เทียบกับปี 2551 ที่ประเมินไว้ที่ 175 ล้านบาท
ดังนั้น SCRI จึงคงแนะนำ “ซื้อ" มูลค่าเหมาะสมปี 2552 เท่ากับ 4.50 บาท/หุ้น
วานนี้ คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)สั่งฝ่ายบริหารต่อรองค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสัญญา 1 กับกลุ่มร่วมทุน CK ลงอีก หลังจากรอบแรกเอกชนยอมลดลงมาราว 1 พันล้านบาท คาดว่าจะสรุปผลกาเรจรจารอบใหม่ได้ภายใน 2 สัปดาห์ และเซ็นสัญญากันได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการเปิดประมูลสัญญา 2 และสัญญา 3 ส่อเค้าต้องเลื่อนตาม