นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.)ระยะที่ 2 ว่า จะมีการปรับลดขนาดโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับรัฐบาลในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)หรือ ทอท.อยู่ระหว่างปรับแผนการลงทุนโครงการ
"เบื้องต้นจะก่อสร้างเฉพาะทางวิ่งเส้นที่ 3 และอาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดิมที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี โดยผู้บริหาร ทอท.ยืนยันว่าในระหว่างการก่อสร้างจะไม่มีผลกระทบหรือสร้างความแออัดต่อสายการบินหรือผู้โดยสารที่ใช้บริการอย่างแน่นอน รวมทั้งจะไม่กระทบต่อประชาชนที่อยู่รอบท่าอากาศยาน เพราะไม่ต้องจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม" นายโสภณ กล่าว
ส่วนการย้ายเที่ยวบินในประเทศของบมจ.การบินไทย(THAI)กลับไปให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องการบริหารจัดการภายในของการบินไทย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายการใช้ท่าอากาศยานเดียวหรือ Single Airport โดยกระทรวงคมนาคมพร้อมสนับสนุนให้มีการใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเห็นด้วยกับแนวทางการดำเนินงานของการบินไทย เพราะจะช่วยส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางทางการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในอนาคตเมื่อสายการบินนกแอร์ และสายการบิน วัน ทู โก ย้ายกลับไปทำการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็จะช่วยให้ปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะช่วยดึงดูดให้สายการบินมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น