ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจธนาคารและกลุ่มบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นสดใสหลังแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่าธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีกำไร ขณะที่ราคาน้ำมันและโลหะมีค่าค่อยๆไต่ระดับสูงขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 41.62 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 3,753.68 จุด
โดยในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ดัชนี FTSE พุ่งขึ้น 6.3% จากอานิสงส์ของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งหลังจากที่แบงก์ ออฟ อเมริกา, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และซิตี้กรุ๊ป อิงค์กล่าวว่า บริษัทสามารถทำกำไรได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
เดวิด มอร์ริสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทจีเอฟทีในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "การดีดตัวขึ้นของดัชนีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ เพราะนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมการเงิน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลงเพราะปัจจัยพื้นฐานยังเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอยู่มากทีเดียว"
ด้านรัฐบาลญี่ปุ่น จีน และสหรัฐต่างทุ่มเทความพยายามในการช่วยเหลือประเทศให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งธนาคารโลกคาดว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะตกต่ำนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งพุ่งสูงขึ้น 6.7% หลังเคนเนธ เลวิส ซีอีโอของแบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐคาดว่า ธนาคารจะสามารถทำกำไรได้ในปีนี้ ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่ที่สุดในโลกปิดบวก 2.2% หลังราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
ด้านหุ้นบาร์เคลย์ส ธนาคารอังกฤษเดินหน้า 3.1% และหุ้นโรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ไต่ระดับขึ้น 3.3%