สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นล่าสุด ปรับลดมุมมองคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 52 พลิกเป็นติดลบ 1.8% จากผลสำรวจครั้งก่อนคาดวาจะเติบโต 0.7% พร้อมทั้งลดคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยลงเหลือสูงสุดที่ 527 จุด จากเดิม 590 จุด และต่ำสุดที่ 348 จุด จากเดิม 364 จุด ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนน่าจะเติบโตได้ถึง 5% เนื่องจากผลประกอบการปีก่อนออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้มาก
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ กล่าวถึงผลสำรวจครั้งใหม่ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในมุมมองของนักวิเคราะห์ไม่สดใส ส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะแตะจุดต่ำสุดภายในปีนี้ และเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า
พร้อมทั้งเสนอแนะให้รัฐจับตาสามปัญหาหลัก ได้แก่ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาการส่งออกหดตัว และปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังแนะให้รัฐบาลเร่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่และการใช้จ่าย กระตุ้นการท่องเที่ยวและการส่งออก รวมถึงการแก้ปัญหาว่างงาน
นอกจากนี้ จากผลสำรวจคาดการณ์ล่าสุด ดัชนีหลักทรัพย์ (SET Index) สิ้นปี 52 จะอยู่ที่เฉลี่ย 495 จุด จากเดิมคาดไว้ 547 จุด โดยหุ้นเด่นที่นักวิเคระห์แนะนำให้ลงทุนตรงกันหลายสำนัก ได้แก่ ADVANC, BEC, CPALL, SCB เป็นต้น
ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่า กลุ่มที่จะมีอัตราเติบโตของกำไรต่อหุ้นสูงที่สุด คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเติบโตเฉลี่ย 24.7% กลุ่มพลังงานเติบโตเฉลี่ย 11.9% กลุ่มที่ไรต่อหุ้นหดตัวมากที่สุด คือ กลุ่มเดินเรือ โดยมีอัตราเฉลี่ยติดลบ 51.4%
สำหรับธนาคารเป็นกลุ่มเดียวที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจอื่นมองว่าอัตราเงินปันผลจะหดตัวลง โดยกลุ่มพลังงานติดลบ 9.9% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ติดลบ 9.3% และกลุ่มที่หดตัวมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มเดินเรือ ติดลบ 49.4% และกลุ่มปิโตรเคมี ติดลบ 37.4%