นายเขมทัต พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท. (MCOT) กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 7% จากปีก่อน โดยแนวโน้มไตรมาส 1/52 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
และในเดือนเม.ย.บริษัทจะมีการปรับผังรายการบางส่วนในช่วงเช้า โดยเพิ่มรายการ"เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" ที่ทำร่วมกับบริษัท เนชั่น บรอดคาสติ้ง จำกัด โดยมีพิธีกร คือนายกนกรัตน์ วงศ์สกุล นายสุวิช สุทธิประภา และ นส.จอมขวัญ หลาวเพ็ชร ซึ่งจะออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกรื์ ตั้งแต่เวลา 6.00-8.00 น. รูปแบบนำเสนอแบบ นิวส์วาไรตี้ รวมทั้งจะเจาะประเด็นข่าวที่แตกต่าง เริ่ม 1 เม.ย.นี้
"เราจะท้าชนเบอร์ 1 ช่าวเช้า ซึ่งเชื่อว่า 1 เดือนหลังจากออกอากาศเราจะรู้ผล ว่าจะได้ขึ้นมาเป็นที่หนึ่งหรือไม่ แต่อัตราค่าโฆษณายังคงเดิม รอให้เรทติ้งดีก่อนถึงจะปรับราคา" นายเขมทัต กล่าว
นอกจากนี้ ในเดือนก.ค. บริษัทจะปรับผังรายการครั้งใหญ่ โดยช่วงนี้จะแต่รายการที่เป็นไปตาม seasonal program ได้แก่ เกมกลยุทธ์ เดอะสตาร์ เป็นต้น
นายเขมทัต กล่าวว่า ในการปรับผังรายการบริษัทจะยังยึดแนวทางปรับคอนเท้นน์เพื่อสร้างความน่าสนใจมากกว่าเน้นการปรับค่าโฆษณา เพื่อให้เอเยนซี่ รู้สึกคุ้มค่าเมื่อมาเรียกใช้การโฆษณาผ่านช่อง 9 และปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาทางสถานีช่อง 9 ไม่ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ผลิตสินค้ายังคงให้ความสำคัญต่อการโฆษณาผ่านสื่อทีวี และตัดงยในหนังสือพิมพ์แทน
กรณีที่มีนักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตุในปีนี้บริษัทจะสูญเสียรายได้สัมปทานจากบมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) และ UBC ไปครึ่งหนึ่งหลัง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลี่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม มีผลบังคับใช้ นั้น นายเขมทัต กล่าวว่า หากกม.มีผลบังคับใช้คาดว่าบริษัทสูญเสียรายได้จากสัญญาสัมปทานดังกล่าวไม่มาก หรือไม่ถึง 100 ล้านบาท และส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรไม่มากนัก