ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 7 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 17, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวอยร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากหลังบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเม็กซ์) เปิดเผยยอดการผิดนัดชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวบดบังปัจจัยบวกที่ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาใช้มาตรการช่วยเหลือภาคการเงิน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 7.01 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 7,216.97 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.66 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 753.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 27.48 จุด หรือ 1.92% แตะที่ 1,404.02 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.15 พันล้านหุ้น

เดฟ โรเวลลี นักวิเคราะห์จากบริษัท Canaccord Adams ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากเอเม็กซ์เปิดเผยว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตในเดือนก.พ.พุ่งขึ้นเป็น 8.7% ส่งผลให้หุ้นอเมริกัน เอ็กซเพรสร่วง 3.3% อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดลงในปีนี้

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ทางสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะสิ้นสุดลงในปีนี้หากรัฐบาลประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาระบบการธนาคาร พร้อมระบุว่าการจะปลดปล่อยเศรษฐกิจออกจากภาวะถดถอยได้นั้นไม่เพียงแต่จะต้องแก้ไขปัญหาในระบบการธนาคารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระตุ้นอัตราการปล่อยกู้ในระบบและฟื้นฟูกลไกตลาดการเงินให้กลับมาทำงานตามปกติ

อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้มองว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจบสิ้นลงในปีนี้ แต่อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะ 10% ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 8.1% และเมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าอะไรคือปัญหาที่ส่งผลคุกคามเศรษฐกิจมากที่สุดในขณะนี้ เบอร์นันเก้ตอบว่า "ปัญหาในขณะนี้คือการเมือง หากสหรัฐใช้นโยบายเศรษฐกิจที่ปลอดการเมือง จะช่วยแก้วิกฤตการณ์การเงินได้อย่างแน่นอน"

นักวิเคราะห์มองว่า ไม่บ่อยนักที่จะเห็นประธานเฟดให้สัมภาษณ์เพื่อแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์ แต่การที่เบอร์นันเก้ตัดสินใจให้สัมภาษณ์ทางรายการ 60 Minutes ครั้งนี้อาจเป็นเพราะสหรัฐกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้เบอร์นันเก้เลือกที่จะสื่อสารโดยตรงกับชาวอเมริกันเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งเป็นอดีตประธานเฟดสาขานิวยอร์กวางแผนที่จะเพิ่มสิทธิอำนาจให้กับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อลดความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจและเพิ่มข้อกำหนดด้านเงินทุนที่เข้มงวดขึ้นสำหรับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่

หุ้นอัลโค อิงค์ ร่วงลง 10.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าจะปรับลดเงินปันผลและลดการใช้จ่ายในปีหน้าเพื่อรับมือกับอุปสงค์อะลูมินั่มที่ชะลอตัวลง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ