บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)ผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่รายใหญ่ คาดปี 52 รายได้ทรงตัวหรืออย่างดีสุดจะขยาย 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,996 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาที่ 5% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 10% แต่มั่นใจกำไรสุทธิปี 52 ดีกว่าปี 51 ที่มีกำไรสุทธิ 1,076.07 ล้านบาท แม้ว่าเศรษฐกิจขาลงจะส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาขายให้อ่อนตัวลง แต่ยังถือว่าดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่อาจจะติดลบ เชื่อความต้องการในตลาดส่งออกยังไปได้ดี โดยเฉพาะญี่ปุ่นและยุโรป ปีนี้คงสัดส่วนรายได้ไว้ที่ 35-40%
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในขณะนี้ทำให้บริษัทตัดสินที่จะรอดูสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก่อนจะทบทวนงบลงทุน ทั้งแผนขยายโรงงานแปรรูปไก่เพื่อส่งออกและขยายฟาร์มเลี้ยงไก่ คาดจะได้ข้อสรุปในเดือนเม.ย.นี้
"มาร์จิ้นปี 52 คงไม่สูงกว่าปีที่แล้ว โดยภาพรวมอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 3-7% เราก็มองว่าอย่างน้อยของเราจะอยู่ที่ 5% จากปีที่แล้ว 10% ซึ่งเป็นภาวะค่อนข้างดี ซึ่งถือว่าดีผิดปกติ ปีนี้มาร์จิ้นเราก็จะตั้ง target ที่ฐานเดิม(5%)...กำไรสุทธิคงจะดีกว่า แต่อัตราเดิบโตคงไม่เท่าปีก่อน"นส.จุฑามาส อิงโพธิ์ชัย ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
สาเหตุที่รายได้และกำไรในปีที่แล้วปรับตัวสูงขึ้น มาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอีก 800 ตัน/เดือน เป็น 1,500 ตัน/เดือน และทุกตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาได้ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
แต่ในปี 52 ภาวะเศรษฐกิจชะลอต้วทั่วโลก เป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้อัตราการขยายตัวไม่สูงเท่าปีก่อน แต่ยังเชื่อว่า สินค้าอาหารไม่ถูกระทบมากนัก
"ด้วยภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เราไม่อยากตั้งเป้าหมายสวนกระแส คิดว่าอย่างน้อยเราคงจะโต 0% แต่ไม่ถึงกับติดลบ เพราะคิดว่าธุรกิจอาหารจะติดลบไม่มาก เพราะยังเป็นสินค้าพื้นฐาน โดยตั้งเป้ารายได้ไว้เบื้องต้น ที่ 0-5%"นส.จุฑามาส กล่าว
น.ส.จุฑามาศ กล่าวยอมรับว่า ราคาขายในต่างประเทศอาจจะทรงตัวหรือลดลง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการน้อยลง แต่คาดว่าปริมาณส่งออกของบริษัทยังน่าจะทำได้เท่าปีก่อนที่ 1,500 ตันต่อเดือน หรือสัดส่วนประมาณ 35-40% ของรายได้
ส่วนในแง่รายได้ขึ้นกับราคา คาดว่าลดลงบ้างตามอุตสาหกรรม แต่เชื่อว่าบริษัทมีลูกค้าที่มีความสัมพันธ์เหนียวแน่น คำสั่งซื้อคงจะยังดีอยู่ โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ตลาดญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งปีก่อนมีสัดส่วน 60% และ 40% จากเดิม 50% และ 50% และคิดว่าปีนี้จะยังคงสัดส่วนนี้ได้เท่าปีที่แล้ว ขณะที่ราคาเนื้อไก่ในประเทศคาดว่าลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย
"เราเป็นธุรกิจอาหาร เราไม่น่าจะลดลงเหมือนธุรกิจอื่น คิดว่าไม่ลงแรง เพียงแต่ว่าเรายังไม่เห็นตัวเลขที่แน่นอน เราคิดว่าทิศทางคงเป็นแบบนี้ ความต้องการลดลง คนทานน้อยลง ราคาก็ลดลง ปริมาณขายคาดว่าจะลงไปไม่มาก ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเห็นในเดือนมกราคม แต่ยังไม่สามารถนำสถานการณ์มาคาดการร์ทั้งปี เพราะอยู่นอกฤดูกาล"นส.จุฑามาส กล่าว
ทั้งนี้ ภาวะอุตสาหกรรมส่งออกเนื้อไก่แปรรูป ประมาณว่าปี 52 ลดลง 5% จากปี 51 ที่มีอัตราเติบโตการส่งออกเนื้อไก่แปรรูป 18.6%
*ทบทวนแผนลงทุนรอสรุป เม.ย.
ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT กล่าวว่า ในด้านการลงทุนขยายกำลังการผลิตของบริษัทในปีนี้ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงต้นปีคงต้องรอประมาณเดือน เม.ย.อาจจะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะในด้านตลาด
"ตอนนี้มีแผนค่อนข้างชัดเจน เราไม่ได้ขยายแบบหวือหวา เราได้ตั้งจำนวงนเงินไม่สูงมาก อย่างไรก็ตาม งบประมาณการลงทุนต้องทบทวนอีกครั้ง และชัดเจนในเดือน เม.ย.หรือหลังไตรมาส 1/52" นส.จุฑามาส กล่าว
ทั้งนี้ โครงการลงทุนที่บริษัทกำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การขยายโรงงานอาหารสัตว์ ต้องรอประเมินความต้องการที่จะเลี้ยงเพื่อส่งออกหรือบริโภคในประเทศว่าจะมีภาวะตลาดสดใสหรือเปล่า โดยโครงการนี้เดิมมีแผนเริ่มผลิตเดือนมี.ค.นี้ โรงงานนี้ตั้งอยู่ บ้านบึง และจ.ชลบุรี ตั้งเป้าผลิตเพื่อให้ใช้ทดแทนโรงงานเดิมที่ผลิตได้ 2.5 แสนตันต่อปี
ส่วนโครงการที่อยู่ในแผนงาน คือ โครงการผลิตไก่แปรรูปและไก่ปรุงสุดไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทร่วมทุนกับบริษัท นิชิเร ฟูดส์ อิงค์ ภายใต้ ชื่อ บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร(ประเทศไทย)จำกัด หรือ GFN โดย GFPT ถือหุ้น 49% ส่วน นิชิเรฯ ถือ 51% หากโรงงานเสร็จก็จะมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขื้น ซึ่งจะเสร็จในปลายปี 53
นส.จุฑามาศ กล่าวว่า โครงการนี้อยู่ในกระบวนวางแผนเพื่อกำหนดกำลังการผลิตที่แน่นอน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1,560 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งจะกู้จากสถาบ้น 51% ของมูลค่าโครงการ
ทั้งนี้ ตามแผนงานเดิมโครงการนี้จะมีกำลังการผลิตและการแปรรูปเนื้อไก่ที่ 75,000 ตันต่อปี และกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกที่ 18,000 ตันต่อปี หลังจากที่โรงงานเริ่มดำเนินการผลิตแล้ว บริษัทฯ คาดยอดการจำหน่ายที่ประมาณ 6 พันล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้จะมีการขยายฟาร์มเลี้ยงไก่ เพื่อรองรับโรงงานใหม่ของ GFN และการขยายกำลังการผลิจของ GFPT ด้วย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบ้านบึง