KMC ตั้งเป้าปี 52 ยอดขาย 1.2 พันลบ.-ลุ้นกำไร,ยังไม่ล้มแผนหาผู้ร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 17, 2009 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร อดีตกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.กฤษดามหานคร(KMC)เชื่อว่าในปี 52 บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย 1.2 พันล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปีก่อน หลังจากที่ได้วางรากฐานการสร้างรายได้ให้กับบริษัทไว้แล้วก่อนที่จะถอยออกจากตำแหน่งเมื่อ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่แผนหาพันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนก็ยังจะเดินหน้าต่อไป

บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เติบโตจากปี 51 ที่มียอดขาย 1 พันล้านบาท ซึ่งเป้าหมายยอดขายที่ 1.2 พันล้านบาทในปีนี้เป็นเป้าหมายของปีก่อน โดยรายได้หลักในปีนี้จะยังมาจากโครงการแนวสูงประเภทคอนโดฯ ประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากโครงการประเภทแนวราบ

"ส่วนปี 52 จะกำไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับยอดขายด้วยว่าในเศรษฐกิจแบบนี้จะทำได้อย่างที่คาดหรือไม่"นายวิรัตน์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ส่วนผลการดำเนินงานปี 51 ที่มีผลขาดทุนอยู่ 360 ล้านบาทนั้น สืบเนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยได้มีการประเมินราคาสินค้าและสินทรัพย์เกิดการด้อยค่า จำนวน 365 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ไม่มีเรื่องพวกนี้เข้ามาแล้ว

"ปี 51 ตอนแรกเราตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,400 แล้วก็มาปรับเหลือ 1,200 แต่มาเจอภาวะเศรษฐกิจไม่ดีเราเลยทำได้แค่พันเดียว ตั้งไว้ 1,200 ขายได้ 1 พันล้านบาทก็เท่าทุน และว่าไปขาดทุนจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากการประเมินราคาราคาสินค้าและสินทรัพย์"นายวิรัตน์ กล่าว

ส่วนเรื่องที่ตัดสินใจลาออกจาก KMC แล้ว โดยมีผล 1 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น นายวิรัตน์ กล่าวว่า ต้องการใช้เวลาดูแลกิจการส่วนตัวที่ต่างจังหวัดอย่างเต็มที่ แต่มั่นใจว่าได้วางรากฐานของ KMC ไว้ดีแล้ว โดยเฉพาะภาระหนี้เหลือน้อยมาก ปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)เหลือไม่ถึง 0.5 เท่า จากเดิม 1:1

ขณะนี้เหลือเพียงการปรับโครงสร้างเพื่อใส่เม็ดเงินใหม่ลงไป โดยบริษัทก็จะเดินหน้าหาผู้ร่วมทุนใหม่ต่อ แม้จะยอมรับว่ายังไม่มีความคืบหน้า เพราะยังไม่มีผู้แสดงความสนใจติดต่อมา

"ไม่ได้ล้มเลิกแผนหาผู้ร่วมทุน เราก็ยังเดินหน้าต่อ แต่อย่างว่าล่ะตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้การหาผู้ร่วมทุนคงลำบาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดี เตรียมไว้หนี้สินรุงรังคงไม่มีใครอยากเข้ามา"นายวิรัตน์ กล่าว

นายวิรัตน์ กล่าวว่า แม้ตอนนี้ KMC จะยังหาผู้ร่วมทุนไม่ได้ แต่ KMC ก็ยังมียอดขายรอโอน(Backlog) ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งทยอยโอนไปแล้วประมาณ 300 ล้านบาท เหลืออีกประมาณ 200 ล้านบาท

และยังมีโครงการที่คาดว่าจะทยอยสร้างยอดขายเข้ามา เช่น โครงการเดอะ คริส เอ็กซ์เพรส 2 ปากซอยรัชดาภิเษก 19 ตอนนี้ลงฐานรากแล้ว ขายไปได้แล้วกว่า 90%, โครงการเดอะคริส 3 ที่กำลังโอนกันอยู่, กฤษดา ลากูน (ปิ่นเกล้า-พระราม 5), บ้านกฤษดา พหลโยธิน-รังสิต เป็นต้น โดยมั่นใจว่าโครงการแนวราบยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอยู่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ