บล.ยูไนเต็ด มีความเห็นหลังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ ว่า ข่าวดังกล่าวส่งผลลบเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เหล็ก รวมถึงกลุ่มธุรกิจอื่นในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อาทิ PTT,PTTCH เป็นต้น เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานการควบคุมมลพิษที่จะประกาศออกมาว่าเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ และจะส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนผลิตของโรงงานปัจจุบัน รวมถึงแผนการลงทุนใหม่เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวน่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มกำจัดขยะ ได้แก่ GENCO, PRO และ BWG
บล.ไซรัส ระบุว่า นับตั้งแต่ศาลปกครองระยองมีคำสั่งให้มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. เป็นต้นมา ทางภาคเอกชน 3 ส่วน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย มีความเห็นว่าคำประกาศดังกล่าวมีผลกระทบต่อการลงทุนในสายตานักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังธุรกิจต่างๆ ที่อยู่ในเขตมาบตาพุด
ข่าวดังกล่าวจึงไม่เป็นผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้นในกลุ่ม PTT และ SCC เพราะมีธุรกิจปิโตรเคมี โรงกลั่นอยู่ในนิคมฯ เป็นจำนวนมาก และอาจมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการขจัดมลพิษ
ด้านบล.แอ๊ดคินซัน แนะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประกาศให้"มาบตาพุด"เป็นเขตควบคุมมลพิษ ยังควรลงทุนด้วยความระมัดระวังจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.10 น.
PTT อยู่ที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.67%)
PTTEP อยู่ที่ 96.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.52%)
PTTCH อยู่ที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+2.86%)
PTTAR อยู่ที่ 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+1.72%)