โบรกฯแนะ"ซื้อ/ถือ"หุ้น DTAC มองเป็นไปได้ยาก"เทเลนอร์"ขายทิ้งแม้แพ้คดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 17, 2009 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หรือ"ถือ"หุ้นบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)แม้เทเลนอร์ ซึ่งเป้นผู้ถือหุ้นใหญ่จะแพ้คดีในศาลรัสเซีย แต่เชื่อไม่กระทบกับกิจการในไทยอย่างมีนัยสำคัญ และคงยากที่จะขายหุ้น DTAC เพื่อจะมาชำระให้กับคู่กรณี อีกทั้งคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดเพราะยังมีขั้นตอนอุทธรณ์ ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงไปรับข่าวแล้ว คิดว่าเป็นจังหวะเข้าซื้อ หรือ ซื้อเก็งกำไรได้ แต่บางโบรกเกอร์ก็มองว่าระยะสั้นถึงระยะกลางยังไม่เห็นปัจจัยบวกสนับสนุนจึงให้รอก่อน

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

          สถาบันวิจัยนครหลวงไทย  ซื้อ                 37.00
          บล.ไอร่า             เก็งกำไร            32.50
          บล.ทรินิตี้             ถือ                 38.00
          บล.ดีบีเอส            ถือ                 32.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา       รอซื้ออ่อนตัว/ถือ       32.00

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ นักวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ ให้คำแนะนำ"ถือ"เหตุผลหลักมาจากความกังวลค่าใช้จ่ายในการย้ายสำนักงานใหม่ในไตรมาส 2/52 ที่มีค่าเช่าเพิ่มขึ้น 300 ล้านบาทต่อปี โดยปีนี้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มราว 250 ล้านบาท และยังค่าใช้จ่ายในการย้ายสำนักงานที่จ่ายครั้งเดียวราว 70-100 ล้านบาท

ชณะเดียวกันจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีดดดันการเติบโตของโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ DTAC ก็มีรายจ่าย IC อยู่มาก จึงเป็นอุปสรรคในการออกโปรโมชั่นแข่งขันกับรายอื่น ทำได้ยากขึ้น

ส่วนกรณีกลุ่มเทเลนอร์แพ้คดีพิพาทที่รัสเซียคาดว่าจะไม่กระทบกับ DTAC อย่างมีนัยสำคัญ เพราะว่าเป็นระดับชั้นผู้ถือหุ้นคือเทเลนอร์ ซึ่งคิดเป็นความเสียหายประมาณ 6% ของมูลค่าสินทรัพย์ เพราะฉะนั้นต่อให้แพ้ เทเลนอร์ก็คงหาวิธีการจ่ายได้ ขณะเดียวกันเทเลนอร์เป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลนอร์เวย์ถือหุ้น 54% ซึ่งได้ลงมาดูกรณีพิพาทนี้แล้ว คาดว่ายังต้องใช้เวลานานพอสมควร

"ที่เราให้"ถือ" เพราะเราไม่เห็นปัจจัยบวกในระยะเวลาสั้นและระยะกลาง แต่สำหรับคนที่ลงทุนระยะสั้น ราคาที่ลงมามากๆอาจมีโอกาสให้เก็งกำไร จากที่ราคาที่ปรับตัวลงมาเร็ว แต่ปัจจัยพื้นฐานเราก็มองว่ายังไม่มีปัจจัยบวกอะไรสนับสนุนให้รีบเข้าลงทุนในขณะนี้" นักวิเคราะห์จากบล.ทรินิตี้ กล่าว

วานนี้ มีข่าวว่าศาลรัสเซียสั่งอายัดหุ้นที่เทเลนอร์ถืออยู่ในวิมเปิลคอม จำนวน 29.9% หลังไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1.7 พันล้านดอลลาร์ ตามคำสั่งศาล ให้แก่ แฟริเม็กซ์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ในวิมเปิลคอม จำนวน 0.002% ซึ่งกล่าวหาว่าเทเลนอร์ ทำให้บริษัทขาดทุนจากการเลื่อนกำหนดเข้าทำธุรกิจในยูเครน

บทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ประเด็นข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น DTAC ในช่วงที่ผ่านมาปรับลดลงมาต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าทางเทเลนอร์(ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ DTAC สัดส่วน 32.7%)จะขายหุ้น DTAC ออกมาเพื่อนำไปใช้หนี้

ซึ่งจากการสอบถามไปยังผู้บริหารเมื่อวานนี้พบว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ทางเทเลนอร์ยังสามารถยื่นอุธรณ์ได้ และกรณีเลวร้ายสุดหากทางเทเลเนอร์แพ้คดีจริงๆ คาดว่าบริษัทจะหาทางเลือกอื่นๆ เช่น การหาแหล่งเงินกู้เพื่อมาชำระหนี้ ซึ่งทางผู้บริหารยังยืนยันว่าทางเทเลนอร์ไม่มีนโยบายในการขายหุ้น DTAC เพื่อไปชำระหนี้ และการที่บริษัทถือหุ้นจำนวนมากคงไม่สามารถขายในตลาดได้ทั้งหมด

ในด้านผลกระทบต่อตัว DTAC ปัญหาดังกล่าว เรามองว่าไม่มีผลกระทบต่อตัวพื้นฐานและการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัย ซึ่งเรายังคงประมาณการผลประกอบการในปี 52 ไว้คงเดิม โดยคาดว่าบริษัทจะมีผลประกอบการชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยกำไรจากการดำเนินงานปรับลดลง 13% จากปีก่อน เหลือ 6,602 ล้านบาท

"สำหรับพื้นฐานของบริษัทแม้ว่าจะเป็นรอง ADVANC แต่ด้วยราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยเชิงลบมากไป ซึ่งซื้อขายที่ P/E 9.8 เท่า ต่ำกว่า ADVANC ที่ 13.6 เท่า ทำให้เราแนะนำถือ หรือรอซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยคง Fair Price ในปี 52 ที่ 32 บาท (อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด 11.4%)"

ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย(SCRI)ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หากพิจารณาจากวิธีการทางการศาลแล้ว ศาลของไซบีเรีย สามารถบังคับขายหุ้นของวิมเพิลคอม และนำเงินไปชำระให้กับ บริษัท แฟริเม็กซ์ ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาก่อน

ปัจจุบันเทเลนอร์ถือหุ้นของ DTAC อยู่ราว 775 ล้านหุ้น คิดเป็น 32% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว หากเทเลนอร์ขายหุ้น DTAC ที่ราคาตลาด 27 บาท จะได้รับเงินราว 2.1 หมื่นล้านบาท ก็ไม่เพียงพอต่อการชำระค่าเสียหาย

ส่วนฐานะทางการเงินของเทเลนอร์งวดปี 2551 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ยังมีกำไรสุทธิ 15,052 ล้านนอค หรือ ประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท และมีเงินสดหรือเท่าเทียมเงินสดราว 8,925 ล้านนอค หรือ ประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท (ข้อมูลจาก รายงานประจำปี 2552 จาก www.telenor.com)

ขณะเดียวกัน DTAC กำลังรอคอยการออกใบอนุญาต 3G จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช) ซึ่งหากได้รับใบอนุญาตดังกล่าว จะทำให้ต้นทุนบริการของบริษัทปรับลดลง เมื่อเทียบกับ การทำธุรกิจภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ DTAC รอคอยมานาน

"SCRI ประเมินว่า ความไม่ชัดเจนของข่าวดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น DTAC ในระยะสั้นได้ แต่ในทางปัจจัยพื้นฐานของ DTAC ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น SCRI ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 37 บาท" บทวิเคราะห์ดังกล่าวระบุ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ