นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาโครงการจัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชน ระหว่าง ปตท. กับบริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด, บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด และบริษัท วีนัสแก๊สเทคโนโลยี จำกัด เพื่อช่วยให้เกิดการขยายจำนวนสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มปริมาณก๊าซให้ทันต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นตามเป้าที่วางไว้ในปี 52
สำหรับสาระสำคัญในสัญญา มีดังนี้ บริษัทฯในฐานะผู้รับจ้างเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง รวมถึงดำเนินการปฏิบัติการสถานี และรับจ้างอัดก๊าซเข้ารถขนส่งก๊าซ ปตท. ใน 3 พื้นที่ โดยสถานีหลักที่สร้างขึ้นของแต่ละบริษัทมีกำลังการอัดก๊าซขั้นต่ำที่ 200 ตัน/วัน และกำลังการอัดก๊าซสำรองอีก 50 ตัน/วัน ทำให้กำลังการผลิตรวมของสถานีแม่เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 600 ตัน/วัน เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสถานีลูกในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โครงการนี้คาดว่าจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติอัดให้ ปตท.ได้ประมาณเดือนต.ค.52
"ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินการขยายตลาดการใช้ NGV ได้อย่างมาก เนื่องจากเอกชนจะมีความคล่องตัวกว่า ปตท. ในเรื่องการจัดหาที่ดิน เครื่องจักรอุปกรณ์ และการก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นการช่วย ปตท.ลดภาระการลงทุน รวมถึงการบริหารจัดการต่างๆ" นายจิตรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 52 ปตท.ตั้งเป้าจะมีรถที่ใช้ก๊าซ NGV 165,800 คัน และมีสถานีเพิ่มขึ้นรวมเป็น 400 สถานี โดยจะต้องเพิ่มความสามารถการผลิตและจ่ายก๊าซของสถานีหลักจากปัจจุบัน 3,020 ตัน/วัน เป็น 4,490 ตัน/วัน และเพิ่มจำนวนรถขนส่งก๊าซจาก 960 คันเป็น 1,250 คัน ในสิ้นปี 52
นายจิตรพงษ์ กล่าวว่า การบริการจ่ายก๊าซ NGV กับสถานี NGV ประเภทนอกแนวท่อที่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เพียงพอและทันต่อปริมาณการใช้ NGV ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ปตท.จึงได้เชิญชวนเอกชนนักลงทุนที่สนใจยื่นข้อเสนอเป็นผู้จัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักพร้อมกัน ใน 3 เขตพื้นที่ คือเขตที่ 1 เป็นพื้นที่แนวท่อโซนเหนือบริเวณ อ.ไทรน้อย ถึงอ.สามโคก จ. ปทุมธานี เขตที่ 2 เป็นพื้นที่แนวท่อโซนใต้บริเวณ อ.ไทรน้อย ถึงโรงไฟฟ้าพระนครใต้ และเขตที่ 3 เป็นพื้นที่แนวท่อโซนตะวันออกบริเวณ อ.บางพลี ถึง อ.หนองเสือ