GENCO คาดลงทุนขยายธุรกิจใหม่ชัดเจนใน Q2/52 เผย EXIM Bank เสนอให้กู้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 18, 2009 13:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมยศ แสงสุวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(GENCO)คาดว่า การลงทุนขยายธุรกิจใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมจะมีความชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส 2/52 โดยทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM Bank)เสนอที่จะให้การสนับสนุนด้านเงินทุน

"เมื่อวานเอ็กซิมแบงก์มาเสนอเงินทุนที่จะให้เราใช้และเสนอโปรเจ็คต์กัน แต่ต้องดูอีกระยะหนึ่ง ช่วงไตรมาส 2 คงจะมีอะไรที่ชัดเจนขึ้น และยิ่งมีเรื่องคุมมลพิษก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจเรา เพราะถ้าทุกคนเข้าระบบ ถูกต้องตามระเบียบก็จะดี"นายสมยศ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการกำจัดขยะชุมชน หลังจากเดินทางไปดูหลุมฝังกลบที่บาหลี ซึ่งใช้แก๊สเข้ามาในกระบวนการกำจัดขยะ โดยบริษัทมีนโยบายที่จะขยับไปให้บริการกำจัดกากของเสียจากชุมชนเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนธุรกิจกำจัดน้ำมันในท่าเรือที่ได้เริ่มไปแล้วนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนรอเซ็นสัญญา ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม

"ผมเพิ่งกลับจากบาหลีไปดูหลุมฝังกลบของชุมชนมาเห็นว่าทำดีเป็นระบบใช้แก๊สได้ด้วย เป็นโปรเจ็คต์ที่น่าสนใจที่เรากำลังศึกษาพิจารณาให้ชัดเจนอยู่"นายสมยศ กล่าว

นายสมยศ กล่าวว่า ด้านฐานะการเงินของบริษัทที่จะใช้ในการลงทุนไม่มีปัญหา ทั้งด้านเงินสดและเงินทุนหมุนเวียน แต่ก็อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในสถานการณ์ขณะนี้

"ผมมั่นใจว่าธุรกิจนี้ถ้าทุกคนปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบก็อยู่ได้ ยังไงก็ไม่ขาดทุน แต่มาร์จินอาจจะไม่สูงพอเพราะเรื่องการแข่งขัน เราก็จะอยู่ต่อได้ แต่อยู่แบบเจียมเนื่อเจียมตัว เงินสดเราก็มี เงินหมุนเวียนเราก็มี"นายสมยศ กล่าว

*คุมมลพิษมาบตาพุดดีต่อภาพรวมธุรกิจ แต่ยังต้องประเมินภาพชัดผลโดยตรงต่อบริษัท

นายสมยศ กล่าวอีกว่า สำหรับการประกาศเขตควบคุมมลพิษในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากนั้น ส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมแน่นอน เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการระมัดระวังเรื่องของมลพิษมากขึ้น เป็นผลดีกับประชาชน เพราะมีกากอุตสาหกรรมบางส่วนที่เก็บไว้ดูแลไม่มิดชิดอาจมีสารพิษระเหยออกมาได้ ก็จะต้องรีบจัดการไม่ด้วยตัวเอง ก็จะต้องส่งให้ GENCO หรือผู้รับกำจัดหากรายอื่นดำเนินการ

แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะได้รับประโยชน์มากน้อยแค่ไหน เพราะคงไม่ได้ทำให้ยอดขายตูมตามขึ้นมาถึงขนาดนั้น เพราะปริมาณกากของเสียไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะมาตรการนี้ แต่ปริมาณจะเป็นไปตามกระบวนการผลิต ซึ่งในแต่ละอุตสาหกรรมแตกต่างกัน เพียงแต่ว่าหากทุกบริษัทมีความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ปล่อยมลพิษออกมา มีสารพิษในโรงงานก็รีบส่งเข้ามาบำบัดก็เป็นผลดีต่อเรา

"โดยภาพรวมเป็นผลดี แต่ผมยังไม่สามารถที่จะประเมินได้ว่าดีเท่าไร หรือเพิ่มกี่เปอร์เซนต์ เพราะต้องรออีกสักนิด ดูท่าทีของผู้ประกอบการ" นายสมยศ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีหลุมฝังกลบใน 3 พื้นที่ คือที่ จ.ระยอง, จ.ราชบุรี และ เขตแสมดำ กรุงเทพ โดยหลุมฝังกลบที่ระยองบางส่วนกำลังจะปิดหลุมให้เรียบร้อย บางส่วนกำลังทยอยปิดและตกแต่งให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งบริษัทไม่ได้ย้ายไปราชบุรีทั้งหมด แต่ย้ายไปบางส่วนเท่านั้น แต่ที่มีปริมาณการกำจัดกากมากที่สุด คือ ที่แสมดำ โดยที่ราชบุรีเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา มีหลุมฝังกลบแห่งเดียว

อย่างไรก็ตาม นายสมยศ กล่าวว่า ในแง่รายได้รวมปีนี้คาดว่ารายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัททั้งโครงการคอนโดมิเนียมย่านสาทร และโครงการทาวน์เฮ้าส์ จะขยายตัวได้ดีกว่ารายได้จากงานกำจัดกาก เนื่องจากมียอดโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้มากขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทมีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ 52.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% จาก 44.9 ล้านบาทในปี 50 ขณะที่บริษัทมีรายได้ค่าบริการบำบัดกาก ค่าฝังกลบ และค่าขนส่ง 416.2 ล้านบาท ลดลงจาก 437.9 ล้านบาทในปี 50 หรือลดลง 5.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ