ThaiBMAคาดปี 52 เอกชนออกหุ้นกู่ 2.4-2.5 แสนลบ./Yieldพันธบัตรสูงขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 18, 2009 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)คาดปี 52 เอกชนออกหุ้นกู้ประมาณ 2.4-2.5 แสนล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่ออกจำนวน 2.8 แสนล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีจะเร่งระดมทุนมาก หลังมีสัญญาณรัฐบาลจะออกพันธบัตรเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ไม่สามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าส่งผลแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีขึ้นไปสูงขึ้น

"ปีที่แล้วเร่งออกกันมากในช่วงปลายปี ปีนี้เลยออกน้อยกว่า แต่ก็มากกว่าที่เราคาดไว้ประมาณ 1.6-1.8 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มพลังงานที่จะออกมากว่ากลุ่มอื่น คิดว่าปีนี้แบงก์คงไม่ออกเยอะเพราะปลายปีออกมามากแล้ว"นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่าว

ในช่วงไตรมาส 2/52 คาดว่าจะทยอยออกหุ้นกู้อย่างน้อย 5.5 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) วงเงิน 5 พันล้านบาท ในเดือนเม.ย. , บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ในเดือน เม.ย. , บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ออกในเดือน พ.ค. และอาจมี ธ.นครหลวงไทย(SCIB) ที่มีวงเงินอยู่ 8 หมื่นล้านบาทแต่คาดว่าจะออกไม่หมดทั้งจำนวน

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/52 มีเอกชนออกหุ้นกู้แล้ว 7.35 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บมจ.ปตท(PTT) วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท, ธนาคารกรุงไทย(KTB) วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท, บมจ.ไทยออยล์(TOP) วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท, บมจ.น้ำประปาไทย(TTW) 7.5 พันล้านบาท, บมจ. แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) วงเงิน 7 พันล้านบาท

นายณัฐพล กล่าวว่า จากที่กระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้น้อยกว่าเป้าหมาย ขณะที่รัฐบาลยังต้องการเงินเพื่อเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมีแนวโน้มว่าจะรัฐบาลจะออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมาก ส่วนสำนักงานประกันสังคมเองก็ต้องการขายพันธบัตรเพื่อนำเงินไปชดเชยกับคนว่างงานที่มีกว่าล้านคน ทำให้แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีขึ้นไปมีโอกาสสูงชึ้น

"ที่เห็น yield curve bond ระยะกลางถึงยาวเริ่มชันขึ้น แสดงว่า ตลาดปัจจุบัน expect ไว้อยู่แล้ว ...แนวโน้มผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเห็นในช่วงกลางปีชัดเจนจากตอนนี้ " นายณัฐพล กล่าว

ทั้งนี้ มองว่าวิกฤติศรษฐกิจรอบนี้คงจะนาน กว่าจะฟื้นตัวน่าจะปลายปี 53 โดยสหรัฐฯจะฟื้นตัวก่อนญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าสิ้นปี 52 อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(R/P)จะอยู่ที่ระดับ 1% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% และคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)รอบหน้า( 8 เม.ย.) อาจไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยก่อนหน้าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินใช้ไม่ได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีแต่นโยบายการคลังเท่านั้นที่พอจะช่วยได้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ