นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและการเงิน บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) กล่าวว่า บริษัทเตรียมแผนเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งส่วนหนึ่งจะทดแทนหุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาทที่จะครบอายุในเดือน มิ.ย. และใช้เพื่อการลงทุน ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจะขอมติผู้ถือหุ้นอนุมัติเพดานวงเงินไว้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท
บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า ซึ่งบริษัทได้เปิดวงเงินเอาไว้ 5.9 พันล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทกำหนดแผนลงทุนไว้ราว 3.6-3.7 พันล้านบาท ซึ่งหลักๆ จะสร้างโรงแรมที่พัทยา 1.6 พันล้านบาท โรงแรมที่ภูเก็ต 1 พันล้านบาท และใช้ปรับปรุงโรงแรมอีกประมาณ 400-500 ล้านบาท รวมทั้ง ใช้ในธุรกิจอาหาร 350 ล้านบาท
ส่วนการขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์จากเดิมที่มีขนาด 3.2 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มขนาดเมื่อใด แต่ก็ยังหวังว่าจะดำเนินการได้ทันภายในปีนี้ และยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้สินทรัพยที่สมุยขายให้กองทุนเพิ่มเติมหรือไม่ แต่เบื้องต้นจะต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีสัญญาเช่าเกินกว่า 30 ปี
นายรณชิต กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ที่ 9 พันล้านบาท หรือเติบโตจากปี 51 ที่มีรายได้ 8.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโตไม่ถึง 10% แต่ถือว่าต่ำกว่าแผน 5 ปีที่บริษัทเคยตั้งเป้าจะโตเฉลี่ยปีละ 15%
ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การใช้จ่ายในประเทศก็หดตัวลงด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่จะโตในอัตรา 15% แต่บริษัทยังเชื่อว่าทิศทางแนวโน้มจะดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ยอดการเข้าพักในช่วง เม.ย.จะกลับมาฟื้นตัวสูงกว่า 80% หลังจากในช่วงไตรมาส 1/52 อัตราการเข้าพักอยู่แค่ 70%
แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ในไตรมาส 1/52 ยังน่าจะออกมาดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เข้ามาตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 51 ทำให้มีจำนวนห้องพักสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาห้องพักในปี 52 พยายามจะให้เฉลี่ยที่ 3,300 บาทเท่ากับปีก่อน
บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าระดับ 3 ดาว จากปัจจุบันที่มีโรงแรมรองรับระบบ 4 ดาว และ 5 ดาว โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และบริษัทยังขยายงานรับจ้างบริหารโรงแรมเพิ่มเป็น 12 แห่ง จากเดิม 4 แห่ง ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญาเข้าบริหารโรงแรมเจริญศรี ที่ จ.อุดรธานี ส่วนอีก 5 แห่งอยู่ระหว่างเจรจา
นายรณชิต กล่าวว่า สำหรับธุรกิจอาหารนั้น หลังจากเข้าซื้อกิจการธุรกิจเบเกอรี่ Bread Papa's ซึ่งมีสาขาที่พารากอน ซึ่งบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3-5 แห่ง ลงทุนต่อสาขาประมาณ 4-5 ล้านบาท และคาดว่าจะสร้างรายได้สาขาละ 8-10 ล้านบาท/ปี และขณะนี้ยังได้เจรจาเพื่อซื้อกิจการอาหารเพิ่มอีก 1 แบรนด์คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้