บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม (BCP) และ บมจ.ปตท.(PTT) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 50 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ลิตรละ 27.24 บาท , แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 23.44 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 22.64 บาท และ ดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 21.09 บาท (ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 และน้ำมันไบโอดีเซล B5)
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับสูงขึ้น นับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีประกาศเพิ่มอัตราเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเป็นครั้งสุดท้าย โดยน้ำมันดิบดูไบสูงขึ้น 2.35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยู่ที่ 43.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์สูงขึ้น 6.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยู่ที่ 53.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น 3.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยู่ที่ 49.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สาเหตุสำคัญมาจากผลประกอบการของสถาบันการเงินชั้นนำในสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีแนวโน้มผลดำเนินการที่ดีขึ้น ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯเดือน ก.พ. 52 ปรับเพิ่มขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แสดงความพร้อมในการจัดการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน นอกจากนี้โรงกลั่นหลายแห่งในยุโรปและเอเชียมีกำหนดปิดซ่อมบำรุงในเดือน มี.ค.52 และเม.ย.52 ทำให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดลดลง "การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันตลาดโลกส่งผลกระทบต่อต้นทุนขายปลีกในประเทศ ปตท.จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด" นายวิทยากล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของยุโรปและสหรัฐอเมริกา อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ส่งผลให้โรงกลั่นหลายแห่งลดกำลังการกลั่นลงและปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดียังคงต้องติดตามต่อไปว่าสมาชิกโอเปกจะให้ความร่วมมือในการปรับลดปริมาณการผลิตเคร่งครัดอย่างไร ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อปริมาณสำรองน้ำมันและส่งผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้