ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 90 จุดเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการดำเนินการครั้งล่าสุดจะช่วยกระตุ้นการปล่อยกู้และการใช้จ่ายผู้บริโภค
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 90.88 จุด หรือ 1.23% แตะที่ 7,486.58 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 16.23 จุด หรือ 2.09% แตะที่ 794.35 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 29.11 จุด หรือ 1.99% แตะ 1,491.22 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 2.08 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.78 พันล้านหุ้น
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 0-0.25% ตามความคาดหมายในการประชุมเมื่อคืนนี้ และส่งสัญญาณว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง พร้อมกับประกาศมาตรการใหม่ๆเพื่อยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
นักลงทุนขานรับเฟดที่ประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเพิ่มการรับซื้อตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เฟดจะเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดย หรือ รับประกันโดยสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่ 2 แห่ง คือ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ในปีนี้ด้วย
เฟดเชื่อว่าการดำเนินการเช่นนี้จะช่วยยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและกระตุ้นอัตราการปล่อยกู้ให้กับภาคเอกชน นอกจากนี้ เฟดเชื่อว่ามาตรการครั้งใหม่จะช่วยให้สภาพคล่องในระบบไหลลื่นและจะเพิ่มอัตราการจ้างงาน ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกทางหนึ่ง
เดวิด ดาร์ส นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเฟดช่วยหนุนตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงหนุนอยู่แล้วจากข้อมูลที่ระบุว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้น 22.2% แตะระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่จะร่วงลง 3.4% เหลือเพียง 450,000 ยูนิต
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% ขณะที่แอนดรูว์ ทิลตัน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ในการยับยั้งเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยนั้น เฟดจะต้องใช้ความพยายามมากเป็น 2 เท่า หลังจากดุลบัญชีของเฟดทรุดตัวลง 17% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.ที่ระดับ 2.31 ล้านล้านดอลลาร์ และเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดตระหนักว่ามีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัท อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ คอร์ป (IBM) เจรจาซื้อกิจการ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ โดยคาดว่า IBM อาจต้องใช้เงินอย่างน้อย 6.5 พันล้านดอลลาร์ในการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าราคาปิดตลาดของหุ้นซัน ไมโครซิสเต็มส์ที่ 4.97 ดอลลาร์/ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร
นอกจากนี้ ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 10.1% และดัชนีดาวโจนส์กลุ่มก่อสร้างบ้านปิดบวก 8.3%