ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นรุนแรง นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาโลหะและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 52.11 จุด แตะที่ 3,804.99 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,768.50-3,901.65 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงทันที หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 138,400 ราย แตะ 1.39 ล้านราย ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 38 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 84,800 ราย
จอร์จ บัคลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์ แบงก์ เอจี กล่าวว่า จำนวนคนว่างงานในอังกฤษอาจสูงกว่า 3 ล้านคนภายในระยะเวลา 1 ปี และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่คะแนนนิยมของรัฐบาลอังกฤษลดน้อยลง โดยขณะนี้รัฐบาลอังกฤษกำลังพยายามหาเสียงเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นริโอ ทินโต ดิ่งลง 6.8% เนื่องจากความกังวลที่ว่าบริษัทอาจเผชิญอุปสรรคทางการเมืองในออสเตรเลีย จนไม่สามารถทำข้อตกลงทางการค้ามูลค่า 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์กับบริษัทไชนัลโคของจีนได้ ขณะที่หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ดิ่งลง 0.8% หุ้นคาซัคมิสร่วงลง 2.2% หุ้นเอ็กซ์สตราตาร่วงลง 3.3% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตันร่วงลง 4.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาด โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ร่วงลง 3.3%