บมจ. ปตท. (PTT) แจ้งว่า ในวันที่ 22 มีนาคม 2552 Lints Limited, Hong Kong (Lints) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PTTI) (บริษัทย่อยที่ ปตท.ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ปตท.ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share sale agreement) กับบริษัท Straits Resources Limited (SRL) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อซื้อหุ้นบริษัท Straits Bulk and Industrial Pty Limited (SBI) (บริษัทย่อยที่ SRL ถือหุ้น ในสัดส่วนร้อยละ 100) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของหุ้นทั้งหมด ในมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 11,838.9 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ 35.34 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) (การเข้าซื้อกิจการ)
การซื้อหุ้น SBI ซึ่งทำธุรกิจถ่านหินสอดคล้องกับนโยบายของ ปตท. ที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงโดยการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของ ปตท. ในระยะยาว
- SAR ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของ SBI เป็นผู้ผลิตถ่านหินที่มีคุณภาพดีและต้นทุนต่ำ และมีโอกาสที่จะเติบโตในระยะยาว มีฐานลูกค้าที่มีคุณภาพและมีพนักงานที่มีประสบการณ์สูง และการซื้อหุ้น SBI ในครั้งนี้เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้แล้ว (producing coal assets) อยู่ระหว่างการพัฒนา และอยู่ระหว่างการสำรวจ ส่งผลให้ ปตท.สามารถรับรู้ผลการดำเนินงานจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องและทันที
- เหมืองถ่านหินที่ SBI ถือหุ้นเป็นเหมืองที่มีศักยภาพทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ และมีศักยภาพในการพัฒนาต่อไป (Upside potential) โดยไม่จำเป็นต้องเรียกเงินทุนเพิ่มจากผู้ถือหุ้นในช่วงนี้
- การลงทุนของ ปตท.ในครั้งนี้ ยังเป็นการสร้างพื้นฐาน พันธมิตรทางกลยุทธ์ร่วมกับหุ้นส่วนทางการค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตทางด้านเหมืองแร่และพลังงานของ ปตท.
สำหรับการจ่ายชำระเงินจำนวนแรก 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 7,774.8 ล้านบาท) จะชำระเมื่อคู่สัญญาต่างได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions Precedent) ของสัญญาซื้อขายหุ้นสำเร็จเรียบร้อย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2552
เงินส่วนที่เหลือจำนวนไม่เกิน 115 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 4,068.7 ล้านบาท) จะชำระเมื่อได้รับการยืนยันการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณสำรองถ่านหิน (JORC reserve upgrades) ของเหมืองถ่านหินที่เกาะ Sebuku ซึ่งตั้งอยู่ที่ South Kalimantan ประเทศอินโดนีเซีย หรือกรณีอื่นตามที่ Lints และ SRL จะตกลงกัน ทั้งนี้ จำนวนเงินที่จ่ายจริงขึ้นอยู่กับวันที่ได้รับการยืนยันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะชำระเงินได้ภายในปี 2552
และเมื่อการเข้าซื้อกิจการข้างต้นเสร็จสิ้นลง Lints จึงต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของ SAR (ไม่รวมส่วนของหุ้นที่ถือหรือหุ้นที่ตกลงจะซื้อโดย Lints) ในราคาเสนอซึ่งกำหนดราคาโดยการอ้างอิงข้อกำหนดในประมวลกฏหมายว่าด้วยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของประเทศสิงคโปร์ของ SGX ซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (daily Volume Weighted Average Prices) ของหุ้น SAR ที่ซื้อขายใน SGX ย้อนหลัง 20 วันทำการนับจากวันทำการก่อนหน้าวันประกาศการเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นฉบับนี้
กล่าวคือ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2552 นอกจากนี้ Lints ต้องทำคำเสนอซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (warrants) จำนวนรวมทั้งสิ้น 35,000,000 หน่วย โดยราคาเสนอซื้อจะคำนวณตามหลักการคำนวณราคาแบบ See Through basis ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับราคาแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ
SBI ได้ออกคำรับรองที่เพิกถอนไม่ได้แก่ Lints ว่า จะไม่เข้าเสนอขายหุ้นจำนวนประมาณร้อยละ 47.1 ใน SAR ตามคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ Lints
สำหรับ แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้น SBI และการทำคำเสนอซื้อหุ้น SAR นั้น ปตท. จะเป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุนให้แก่ Lints ผ่านทาง PTTI สำหรับการซื้อหุ้น SBI และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SAR โดยเบื้องต้น ปตท.จะเพิ่มทุนจดทะเบียนใน PTTI และให้กู้ยืมเงิน (Shareholder's Loan) โดยมีเงื่อนไขเชิงพาณิชย์ทั่วไป ซึ่ง PTTI จะดำเนินการจัดโครงสร้างทางการเงินตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้น SBI และการทำคำเสนอซื้อหุ้น SAR คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2552