หุ้น PTT ราคาวิ่งขึ้น 3.31% มาอยู่ที่ 156 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,080.24 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.31 น. โดยเปิดตลาดที่ 153 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 157 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 152 บาท
นายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์อาวุโส สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ปตท.(PTT)เช้านี้วิ่งขึ้นด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น ภายหลังจากที่ PTT ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจถ่านหิน ซึ่งก็ค่อนข้างจะประหลาดใจเหมือนกัน เพราะว่าเดิมเขาทำธุรกิจแก๊ส แล้วหันมามองธุรกิจถ่านหิน ซึ่งเดิม PTT อาจไม่ค่อยจะสนใจธุรกิจถ่านหินเท่าไร
อย่างไรก็ดี การที่สามารถเทรดธุรกิจพลังงานได้ในหลาย ๆ รูปแบบ อาจจะช่วยเสริมการทำธุรกิจในอนาคตได้ ตอนนี้ที่คำนวนมาในส่วนของเงินลงทุนที่เข้าไปก็ไม่ถือว่าแพง ถ้าเทียบกับบริษัทที่ทำเหมืองอื่น ๆ ในปัจจุบัน แต่ในแง่ของกำไรถือว่าไม่มาก โดยมองไว้ปีละประมาณไม่เกิน 2 พันล้านบาทในแง่ของตัวกำไร ถ้าเทียบกับกำไรที่มาจากธุรกิจอื่น ๆ ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ก็มองว่ากำไรเข้ามาไม่เกิน 2%ของกำไรทั้งหมด แต่ถ้าปีนี้(2552)ก็จะมีกำไรเข้ามาแค่ครึ่งเดียวคือ 1% ก็คงจะไม่ได้ contribute เข้ามามาก เพียงแต่อาจเป็นการเริ่มต้นของการมองธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งถ้าได้ในราคาที่น่าสนใจ และบริษัทฯมีเรื่องของกระแสเงินสดเข้ามาที่สามารถเอาไปลงทุนเพิ่มได้ ทางบริษัทฯอาจจะมองการลงทุนส่วนนี้เพิ่มเติมอีก
ตอนนี้ถ้าพูดถึงการลงทุน ก็อาจจะไม่ได้ทำให้ภาพของความน่าสนใจของหุ้นเปลี่ยนไป ตอนนี้ก็เชื่อว่ายังเป็นหุ้นที่น่าสนใจในระยะยาวอยู่ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 267 บาท/หุ้น ถ้ารวมถึงการลงทุนธุรกิจถ่านหินนี้ด้วยก็อาจจะทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย 1-2%
เช้านี้ บมจ. ปตท. (PTT) แจ้งว่า ในวันที่ 22 มีนาคม 2552 Lints Limited, Hong Kong (Lints) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PTTI) (บริษัทย่อยที่ ปตท.ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ปตท.ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share sale agreement) กับบริษัท Straits Resources Limited (SRL) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อซื้อหุ้นบริษัท Straits Bulk and Industrial Pty Limited (SBI) (บริษัทย่อยที่ SRL ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของหุ้นทั้งหมด ในมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 11,838.9 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ 35.34 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) (การเข้าซื้อกิจการ)