DRT รุกขยายส่งออกเน้นกัมพูชา หวังรักษายอดขายเท่าปี 51 ที่ 2.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 23, 2009 12:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บมจ. กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี บริษัทฯ จะปรับกลยุทธ์เน้นเจาะตลาดส่งออกให้มากขึ้น เนื่องจากว่าในปีที่ผ่านมายอดขายจากการส่งออก เพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งเกินกว่าเป้าที่เราตั้งไว้ โดยที่ปีนี้เราตั้งเป้าตลาดส่งออกประมาณ 10-12% ของยอดขายรวม โดยเฉพาะตลาดกัมพูชา ซึ่งมีสัดส่วนส่งออกมากกว่าครึ่ง โดย DRT ทำตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย บวกกับคุณสมบัติของกระเบื้องตราเพชร สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่กัมพูชาเป็นอย่างมาก

สำหรับการขยายตลาดในกัมพูชานั้น บริษัทฯ ได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในการผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยนำสินค้าในกลุ่มกระเบื้องหลังคาคอนกรีตแบบเรียบ ภายใต้แบรนด์ “อดามัส" เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม รวมถึงกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างประเภทไม้ฝา เพื่อรองรับกับกลุ่มลูกค้าและช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้ามากขึ้น พร้อมกับการทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพื่อติดประชาสัมพันธ์ทั่วกรุงพนมเปญ เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าใหม่ อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังขยายตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชา เพิ่มอีก 4 จังหวัด ได้แก่ กัมโปงโสม (สีหนุวิลล์), ศรีโสภณ, มณฑลคีรี, สตรึงแตรง จากเดิมที่ทำตลาดอยู่ใน 6 จังหวัด อาทิเช่น กรุงพนมเปญ เมืองเสียมเรียบ และเมืองกัมปงจาง เป็นต้น ขณะเดียวกันจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในประเทศด้วย โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 100 ราย จากเดิม 600 ราย รวมถึงมีแผนจะสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับตัวแทนจำหน่าย

ปัจจุบันตลาดส่งออก DRT จะอยู่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก โดยเฉพาะ ประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ตามลำดับ รวมถึง จีน ไต้หวัน ออสเตรเลีย ด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้เตรียมขยายตลาดใหม่ๆ ในพื้นที่เป้าหมายไว้ อาทิ ประเทศแถบตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ เป็นต้น

“บริษัทฯ คาดว่า จากการปรับแผนการทำตลาดส่งออกในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ 10% ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรักษาสัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกในปีนี้ไว้ที่ 10% เท่ากับปีที่ผ่านมา" นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนการใช้งบทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละปีจะใช้งบ 5% จากยอดขายจากการส่งออก โดยจะเร่งทำรายการส่งเสริมการขายในลักษณะของ Trade Promotion ให้กับบริษัทคู่ค้าในตลาดต่างประเทศในช่วงฤดูกาลขายสินค้า ซึ่งอยู่ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน จากเดิมที่จะใช้งบดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่สถานการณ์ของตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ