นายเลิศชาย กันภัย กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชียซอฟท์(AS) เปิดเผยว่า ในปี 52 คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 15-20% ของมูลค่าตลาดรวมที่ 2 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการออกเกมใหม่ทุกไตรมาส ๆ ละ 2-3 เกม มากกว่าปีก่อน ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว น่าจะทำให้คนส่วนใหญ่อยู่บ้านและใช้เวลาว่างเล่นเกมออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากค่าเสียใช้จ่ายน้อยกว่าการออกไปนอกบ้าน
สำหรับเกมใหม่ๆ ที่บริษัทนำออกมาทำตลาดในปีนี้จะมีเกมที่เจาะกลุ่มผู้เล่นที่เป็นผู้หญิงและคนวัยทำงาน จากเดิมที่ลูกค้าหลักจะเป็นเด็ก วัยรุ่น และผู้ชาย โดยปัจจุบันอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงราคาถูกลง ส่งผลดีต่อธุรกิจซอฟท์แวร์ด้านเกมของ AS
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดเกมในประเทศไทย AS ยังครองส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)เป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาด 60-70% มีเกมออนไลน์ให้บริการทั้งสิ้น 11 เกม รวมทั้ง มีร้านสมาชิกอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ 14,000 ราย มีฐานลูกค้าประมาณกว่า 10 ล้าน ID
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้ AS มีรายได้จากธุรกิจเกมในต่างประเทศ เช่น ในสิงคโปร์มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนในมาเลเซียแม้จะเพิ่งเริ่มทำการตลาดเมื่อปี 51 ก็สามารถครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 และปีนี้จะรุกตลาดมากขึ้น ทำการตลาดเต็มรูปแบบ หลังจากมีความพร้อม
ขณะที่ในเวียดนาม แม้จะเข้าไปทำการตลาดหลายปีแล้ว แต่การแข่งขันสูงมากทั้งด้านราคาและจำนวนผู้ผลิตซอฟท์แวร์เกม ดังนั้น บริษัทยังต้องพยายามสร้างรายได้จากตลาดเวียดนามมากขึ้น และปีนี้บริษัทมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งยังคงดำเนินการตามแผน
"ฟิลิปปินส์มั่นใจว่าจะได้เห็นปีนี้ ส่วนจะเป็นช่วงไตรมาสไหน ยังบอกไม่ได้ ส่วนการลงทุนยังไม่สามารถตัวเลขได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในส่วน Infrastructure และการตลาดร่วมกับพันธมิตรในฟิลิปปินส์" นายเลิศชาย กล่าว