EASTW ตั้งเป้าปี 52 รายได้โต 10-15% จากงวดปี 51 เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 23, 2009 18:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก(EASTW) คาดว่ารายได้รวมในปี 52 จะเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับงบในปีก่อน(ต.ค.50-ก.ย.51)ที่มีรายได้ 2,380 ล้านบาท

รายได้รวมจะเป็นการเติบโตจากน้ำดิบ 15-16% ที่บริษัทได้มีการปรับราคามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และจะคงราคาค่าน้ำถึงสิ้นปี 53 ไว้ที่ 9.25-11.25 บาท/ลบ.ม. และหลังจากนั้นจะปรับหรือไม่ คงขึ้นกับสถานการณ์และการลงทุนของบริษัทในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ปริมาณการใช้น้ำยังเติบโตอยู่ โดยเฉพาะน้ำประปาที่รายได้ปีนี้จะเติบโตราว 10% บริษัทจึงวางแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องใน 5 ปีข้างหน้า(52-56)รวมทั้งนำดิบและน้ำประปา 4.6 พันล้านบาท แต่จะแบ่งเป็นการลงทุนในปี 52 ประมาณ 2.1 พันล้านบาท เป็นการลงทุนในโครงการหนองปลาไหล-มาบตาพุด เส้นที่ 3 และท่อที่ประแสร์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนกรมชลประทาน และส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนน้ำประปาที่ชลบุรีที่เตรียมลงทุนกลางปีนี้ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างรอการประกาศผลการประกวดราคาอย่างเป็นทางการ

ในแง่ของความต้องการใช้น้ำดิบทั้งปีนี้คาดว่าอาจจะลดลงประมาณ 5% จากปริมาณการใช้น้ำปีก่อนที่ 228 ล้านลบ.ม. และจะฟื้นตัวขึ้นมาเป็น 240 ล้านลบ.ม. ในปี 53 และกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในปี 54

ทั้งนี้ ในเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมาปริมาณการใช้น้ำดิบของลูกค้าลดลง 5% มาจากการลดกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและยานยนต์ แต่ในส่วนของน้ำประปายังคงขยายตัว 12% ขณะนี้ปริมาณน้ำในเดือน มี.ค 52 ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงต้องเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงกลางปีนี้

"3 เดือนแรก ค่อยดีขึ้น หลังจากที่ในไตรมาส 4 ปี 51 วอลุ่มลดลงไป 7%"

นายประพันธ์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับราคาขายน้ำเมื่อกลางปี 51 ส่งผลให้เชื่อว่าปีนี้จะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ไว้ที่ 53.22% เท่าปีก่อน ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิ นอกจากนั้น ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการลดต้นทุน โดยเฉพาะเบี้ยประชุมของคณะกรรมการจาก 25 ล้านบาทเหลือ 15 ล้านบาท

ส่วนผลกระทบจากการที่รัฐบาลประกาศให้มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษนั้น มองว่าได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากจะมีผลกับโครงการใหม่ๆ ในอนาคตมากกว่า โดยปริมาณการใช้น้ำจะหายไป 5% ในเวลา 10 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ