"โสภณ"ย้ำการบินไทยต้องพิสูจน์ตัวเองหากล้มเหลวผู้ให้นโยบายต้องรับผิดชอบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 23, 2009 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.,บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด(บวท.), บมจ.การบินไทย(THAI)ยืนยันความพร้อมที่จะให้บริการเพื่อรองรับเที่ยวบินในประเทศของการบินไทยที่จะย้ายมาจากท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 29 มี.ค.นี้

"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะการบินไทยจะต้องพิสูจน์ว่าการย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะช่วยเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายอย่างไร และหน่วยงานที่ระบุว่ามีความพร้อมในการให้บริการเที่ยวบินที่ย้ายมาก็จะต้องรอดูผลการปฏิบัติงานในวันที่ 29 มี.ค.นี้ว่าจะมีปัญหาการให้บริการหรือไม่ ซึ่งตนจะประเมินผลการดำเนินงานทุกๆเดือน หากพบว่าการดำเนินงานล้มเหลวผู้ให้นโยบายก็ต้องรับผิดชอบ"นายโสภณ กล่าว

ทั้งนี้ ทอท.ได้จัดเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง เคาน์เตอร์เช็คอิน ห้องน้ำ และรถเข็นไว้ให้บริการ ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนช่วงแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณเปิดให้บริการและมีปัญหาห้องน้ำ และเคาน์เตอร์เช็คอินไม่เพียงพอกับความต้องการ

ขณะที่ บวท.ได้จัดการบริหารการจราจรทางอากาศใหม่ ซึ่งจะช่วยลดจุดตัดการจราจรทางอากาศเหลือเพียง 3 จุด จากเดิมที่มีอยู่ถึง 20 จุด ซึ่งจะทำให้การจราจรทางอากาศมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มความรวดเร็วในการทำการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าในชั่วโมงคับคั่งจะเพิ่มการให้บริการเที่ยวบินเป็น 52 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิม 48 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

นอกจากนั้น สายการบินยังจะประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องเสียเวลาบินอ้อม โดยเฉพาะกรณีทำการบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเลี้ยวซ้ายบินตรงไปสู่เส้นทางบินได้เลย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้ 5 นาที คิดเป็นมูลค่าการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 3.3 หมื่นบาทต่อเที่ยว

ส่วนกรณีที่นักวิชาการอิสระไปยื่นฟ้องศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้ระงับการย้ายเที่ยวบินในประเทศของการบินไทยนั้น ขณะนี้ศาลยังไม่ได้ประทับรับฟ้อง ดังนั้นการดำเนินการย้ายเที่ยวบินจะยังคงดำเนินการต่อไปตามแผนงาน

ด้าน พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า การบินไทยได้เพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศ 12 เคาน์เตอร์ รวมเป็น 36 เคาน์เตอร์ รวมทั้งได้เพิ่มบริการเช็คอินด้วยตนเอง 13 เครื่อง นอกจากนั้น ยังได้ขยายพื้นที่ห้องรับรองพิเศษอีก 284 ตารางเมตร จากเดิม 650 ตารางเมตร

เที่ยวบินแรกที่จะออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.นี้ คือ เที่ยวบินทีจี 020 เส้นทางสุวรรณภูมิ-อุบลราชธานี ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 06.00 ขณะที่เที่ยวบินแรกที่ลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.นี้ คือ เที่ยวบินทีจี 123 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 08.10 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ