ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ขอให้บมจ.บลิส-เทล (BLISS) ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อโครงการห้องชุดมูลค่า 154.50 ล้านบาท ของ BLISS ซึ่งเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับขนาดของสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นของ BLISS ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2551 ที่มีจำนวน 513 ล้านบาท และ 29 ล้านบาทตามลำดับ มายังตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 26 มี.ค. 2552 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้รับทราบข้อมูล ประกอบด้วย
ข้อมูลรายละเอียดของบจ. เอเซีย เอสเตท แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (ผู้ขายห้องชุด) และ บจ. อังเกตุ โฮลดิ้ง (ผู้ถือกรรมสิทธิ์โครงการ) ซึ่งได้แก่ ประเภทธุรกิจ ผลงานในอดีต ชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ชื่อคณะกรรมการ รวมทั้งขอให้บริษัทชี้แจงว่ารายการซื้อทรัพย์สินดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการเกี่ยวโยงกันตามประกาศที่ตลาดหลักทรัพย์และคณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนดไว้ หรือไม่ อย่างไร
เนื่องจากบริษัทเปิดเผยว่า บริษัททำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับ บจ. เอเซีย เอสเตท แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2551 ในขณะที่บจ. อังเกตุ โฮลดิ้ง เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด ดังกล่าว ดังนั้น ขอให้บริษัทชี้แจงถึงที่มาที่ไปของการซื้อโครงการดังกล่าว และสาเหตุที่บริษัทมิได้ซื้อโครงการดังกล่าวจากบจ. อังเกตุ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์โดยตรง รวมถึงมีความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์หรือไม่ อย่างไร
รวมทั้ง เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดราคาซื้อขาย และการประเมินมูลค่าโครงการโดยผู้ประเมินราคาอิสระ ลักษณะและสภาพโครงการ ความคืบหน้าการก่อสร้าง มูลค่าการลงทุนเพิ่มเติมของโครงการดังกล่าวที่จะเกิดในอนาคต รวมถึงภาระผูกพันที่อาจจะเกิดขึ้น เหตุผล/ความจำเป็นที่บริษัทซื้อโครงการห้องชุดดังกล่าว ระยะเวลาที่บริษัทคาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ รวมถึงนโยบายทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัท
และสาเหตุที่บริษัทนำเงินทุนหมุนเวียนไปซื้อโครงการห้องชุดดังกล่าว ในขณะที่รายงานผู้สอบบัญชีและหมายเหตุประกอบงบการเงินประจำปี 2551 ข้อ 3 และ 18 ระบุว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินกับธนาคารพาณิชย์สองแห่งจำนวน 296 ล้านบาท ซึ่งผลการจากการผิดนัดอาจทำให้ธนาคารมีสิทธิเร่งให้บริษัทชำระหนี้ทั้งหมดได้ทันที