ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 497.48 จุดขานรับแผนขจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 24, 2009 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเปิดเผยแผนกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีธนาคาร ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าธุรกิจปล่อยกู้ของสถาบันการเงินในสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น และข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 497.48 จุด หรือ 6.84% แตะที่ 7,775.86 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 54.38 จุด หรือ 7.08% แตะที่ 822.92 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 98.50 จุด หรือ 6.76% แตะที่ 1,555.77 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.91 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,863 ต่อ 259 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.24 พันล้านหุ้น

จิม ดูนิแกน นักวิเคราะห์จาก PNC Wealth Management กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคึกหลังจากคณะทำงานของโอบามาเปิดเผยแผนกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีธนาคาร ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าธุรกิจปล่อยกู้ของสถาบันการเงินในสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด

การเปิดเผยแผนการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมถึงการข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเพิ่มการรับซื้อตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์

รายงานระบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะเริ่มปล่อยกู้สำหรับโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนด้วยเงิน 7.5 หมื่นถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมาจากวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ของกองทุนฟื้นฟูภาคการเงินที่ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ตลาดขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนก.พ.แตะระดับ 4.72 ล้านยูนิต สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.จะร่วงลง 0.9% แตะระดับ 4.45 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเริ่มรวบรวมข้อมูลในปีพ.ศ.2543

ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความวิตกกังวลเรื่องปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนม.ค.ร่วงลง 5.3% เหลือเพียง 4.49 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากนายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนชื่อดังและประธานบริษัท เทมเพลตัน แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ ที่คาดการณ์ว่า ภาวะกระทิงรอบใหม่ของตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มขึ้นแล้ว และบริษัท เทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในตลาดเกิดใหม่ทุกแห่ง ซึ่งมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจมากกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

"ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะกระทิงรอบใหม่ บริษัทเทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในบริษัทที่มีสภาพคล่องหนาแน่น หนี้สินต่ำ มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูง และให้ความสนใจในบริษัทที่มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้ดีในอนาคต" โมเบียส วัย 72 ปีกล่าวทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก

หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่ง 19.5% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 26% หุ้นเจพีมอร์แกนปิดบวก 25% และหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ปิดพุ่ง 24%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ